เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่น!!! การบินไทย แจงผู้ถือหุ้น-นิติบุคคล สถาบันการเงิน เผยทุกฝ่ายพร้อมหนุนแผนฟื้นฟูกิจการ

1795

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 ในวันที่ 31 ก.ค.2563 โดยมีพลอากาศเอก ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ประธานกรรมการบริษัทฯ เป็นประธานในการประชุม และมีคณะกรรมการ ฝ่ายบริหาร และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เข้าร่วมการประชุม มีวาระสำคัญคือรายงานผลการดำเนินงานและ ผลการเจรจาผู้ถือหุ้นกู้นิติบุคคลและสถาบันการเงิน ซึ่งทุกฝ่ายพร้อมหนุนแผนฟื้นฟู 

เรื่องรายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2562 ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นฯ รับทราบผลการดำเนินงานประจำปี 2562 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีรายได้ รวมทั้งสิ้น 184,046 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 15,454 ล้านบาท หรือ 7.7% รายได้จากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าที่ลดลงรวม 15,767 ล้านบาท (8.6%) สำหรับค่าใช้จ่ายรวม 196,470 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 12,088 ล้านบาท (5.8%) สาเหตุหลักเกิดจากค่าน้ำมันที่ลดลง 5,421 ล้านบาท (9.0%) เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง 8.2% ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมน้ำมันลดลงจากปีก่อน 6,580 ล้านบาท (4.6%) ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยขาดทุนจากการดำเนินงานจำนวน 12,424 ล้านบาท ขาดทุนสูงกว่าปีก่อน 3,366 ล้านบาท (37.2%)

กล่าวคือก่อนหน้านี้ได้มีการจัดประชุมพบปะกับผู้ถือหุ้นกู้ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรต่างๆ และสถาบันการเงินกว่า 140 แห่ง เพื่อชี้แจงและสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้กลุ่มดังกล่าว เกี่ยวกับการดูแลสิทธิของผู้ถือหุ้นกู้ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และอธิบายแนวทางการดำเนินธุรกิจของการบินไทยเพื่อสร้างรายได้และชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ในอนาคต 

ผู้ถือหุ้นกู้ที่เข้าร่วมประชุมมีความเข้าใจในความจำเป็นและประโยชน์ของการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของการบินไทย โดยผู้ถือหุ้นกู้ให้การตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ถือหุ้นกู้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการบินไทย คือ ผลประโยชน์ของเจ้าหนี้และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

สำหรับตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ของการบินไทยจากชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้กลุ่มสหกรณ์ จำนวน 87 สหกรณ์ โดยมีแกนนำสหกรณ์ผู้ถือหุ้นกู้รายใหญ่ที่เข้าร่วมประชุม จำนวน 5 สหกรณ์ ประกอบไปด้วย 

-สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด 

-สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำกัด 

-สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด 

-สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำกัด และ

-สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำกัด 

ซึ่งการประชุมเป็นไปด้วยดี และแกนนำสหกรณ์ทั้ง 5 รับทราบและเห็นด้วยว่า หากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้การบินไทยฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนโดยเร็ว จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายและเจ้าหนี้ทุกราย เพื่อให้มีการเริ่มจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการที่กำหนดสิทธิของเจ้าหนี้ได้โดยเร็วที่สุด โดยหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการแล้ว ผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการและการบินไทยจะทำงานร่วมกับกลุ่มเจ้าหนี้ เพื่อหารือแนวทางของแผนฟื้นฟูกิจการอย่างแน่นอน