ทรัมป์กร้าวไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง?!? สะกิดยุติธรรมสั่งเอฟบีไอสอบการนับคะแนน อ้างโกง ขู่จะระดมสาวกลงถนน

2400

เริ่มแล้วการตอบโต้ของทรัมป์ฯผ่านกลไกอำนาจรัฐที่ยังมีอำนาจอยู่ กระทรวงยุติธรรมสั่งสอบ”ความผิดปกติ”ของการนับคะแนนทั่วประเทศ ขณะสมาชิกรีพับลิกันมีทั้งหนุนทรัมป์ยื่นฟ้องศาลและบ้างพร้อมร่วมงานไบเดนเจ้าตัวทวิตส่งสัญญาณระดมชุมนุมคัดค้านผลเลือกตั้ง ทีมงานยังไม่แจงว่าจะเริ่มเมื่อใด ฝ่ายรัสเซียและจีนยังสงวนท่าที รอประกาศเป็นทางการ โดยรวมแล้วยากที่ทรัมป์จะพลิกสถานการณ์แต่หลายฝ่ายมองว่าทรัมป์กำลังหาทางลงมากกว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงแรงกระตุ้นความขัดแย้งรุนแรงระหว่างประชาชนที่เห็นต่าง จะลดลงหรือไม่ยังไม่มีใครให้คำตอบได้

รีพับลิกันยังหนุนทรัมป์หรือไม่?

ทรัมป์ได้ออกรอบเล่นกอล์ฟในสนามของเขาที่รัฐเวอร์จิเนียซ้ำอีกเป็นวันที่ 2 และยังไม่มีท่าทีว่าจะยอมรับความพ่ายแพ้ เขาทวีตว่า “สื่อกระแสง่อยเป็นผู้ขานชื่อว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐฯ ตั้งแต่เมื่อใด” ทรัมป์มีแผนจะยื่นคำร้องทางกฎหมายเพื่อขอให้นับคะแนนใหม่ในหลายรัฐสมรภูมิ

ตามการเปิดเผยของรูดี จูเลียนี ทนายความของเขา ที่อ้างว่า “มีหลักฐานมากมาย” ว่ามีการทุจริตเลือกตั้ง

รายงานรอยเตอร์อ้างคำกล่าวของทิม เมอร์ทอ โฆษกคณะทำงานเลือกตั้งของทรัมป์ ที่ยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ว่า ทรัมป์จะจัดการชุมนุมหลายครั้งเพื่อระดมเสียงสนับสนุนในการต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อท้าทายผลเลือกตั้ง เขาไม่ได้บอกแน่ชัดว่าเมื่อใด นอกจากนี้พวกเขายังเปิดตัวทีมงานหลายทีมที่จะเดินหน้าฟ้องร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ และจะหาทางสนับสนุนคำกล่าวอ้างเรื่องการทุจริตเลือกตั้งด้วยการสวมสิทธิ์คนตาย

ภายในรีพับลิกันมีวุฒิสมาชิกเพียง 2 คน คือ มิตต์ รอมนีย์ และลิซา เมอร์โคสกี ที่แสดงความยินดีต่อไบเดน โดยรมนีย์นั้นบอกว่า ที่สุดแล้วทรัมป์จะยอมรับความพ่ายแพ้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และสำทับว่า อยากให้โลกเห็นการก้าวลงจากตำแหน่งอย่างสง่างาม แต่นั่นคงไม่ใช่นิสัยของทรัมป์ ทว่า ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกรีพับลิกันที่เป็นพันธมิตรของทรัมป์ กล่าวว่า ถ้าไบเดนชนะ เขาก็พร้อมร่วมงานด้วย แต่ตอนนี้เขาคิดว่า ทรัมป์ควรสู้ต่อ ทางด้านทิม เมอร์ทอช โฆษกทีมหาเสียงของทรัมป์ เผยว่า ทรัมป์มีแผนเดินสายปราศรัยขอการสนับสนุนจากประชาชนเพื่อคัดค้านผลเลือกตั้ง โดยมีการจัดตั้งทีมเพื่อจัดการให้มีการนับคะแนนใหม่ในหลายรัฐแล้ว

อย่างไรก็ดี นอกจากพวกผู้เชี่ยวชาญต่างไม่เชื่อว่า ความพยายามฟ้องร้องของทรัมป์จะประสบความสำเร็จแล้ว สำนักข่าวเอพียังอ้างคำบอกเล่าของพวกเจ้าหน้าที่อาวุโส ผู้ช่วยในทีมหาเสียง และพันธมิตรหลายคนของทรัมป์ ที่พูดโดยขอให้สงวนนามว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การมีหลักฐานการโกงการเลือกตั้งอย่างชัดเจน แต่การฟ้องร้องมีเป้าหมายเพื่อให้ทรัมป์มีทางลงสำหรับความพ่ายแพ้ที่เขาไม่อาจยอมรับได้ มากกว่าต้องการเปลี่ยนผลการเลือกตั้ง รวมทั้งยังต้องการรักษาฐานเสียงเอาไว้แม้ทรัมป์เป็นฝ่ายแพ้การเลือกตั้งก็ตาม

ยุติธรรมสหรัฐสั่งสอบ “การนับคะแนน”

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐสั่งการให้เอฟบีไอและอัยการสูงสุดทั่วประเทศ ตรวจสอบ “ข้อกล่าวหาและความผิดปกติ” ที่เกิดขึ่นกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้นายวิลเลียม บาร์ รมว.ยุติธรรมของสหรัฐ ส่งหนังสือถึงนายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) อัยการสูงสุด50 มลรัฐ และกรุงวอชิงตันซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษ ขอให้มีการ “ใช้อำนาจภายในขอบเขตของตัวเอง” เพื่อดำเนินการตรวจสอบ “ข้อกล่าวหาและความผิดปกติที่เป็นรูปธนนม” ต่อกระบวนการลงตคะแนนโดยบาร์เน้นว่า ไม่ได้หมายถึงการเลือกตั้งที่ผ่านมมีการทุจริตเกิดขึ้นแล้ว  แต่ให้ตรวจสอบเพื่อให้เกิดความกระจ่างเป็นเรืองจำเป็นและสำคัญ

ขณะที่นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ แกนนำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐเหน็บคนประกาศผลการเลือกตั้งปธน.ไม่ใช่สื่อมวลชน แต่เป็นคณะกรรมการกลางการเลือกตั้งต่างหาก

จูเลียนี ทนายความของทรัมป์ กล่าวกับฟอกซ์นิวส์ว่า ทีมงานของทรัมป์จะยื่นฟ้องร้องที่รัฐเพนซิลเวเนียวันจันทร์เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ “ฐานละเมิดสิทธิพลเมือง, จัดการเลือกตั้งอย่างไม่ยุติธรรม  และละเมิดกฎหมายของรัฐ” แล้วต่อไปก็จะยื่นฟ้องที่รัฐมิชิแกนหรือจอร์เจีย

ซีโมน แซนเดอร์ส ที่ปรึกษาอาวุโสของไบเดน กล่าวกับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันอาทิตย์ว่า การฟ้องร้องต่อศาลของฝ่ายทรัมป์นั้นเป็น “กลยุทธ์ทางกฎหมายที่ไม่มีมูลความจริง”

สื่อหล้กสหรัฐประกาศผลให้ไบเดนชนะแล้ว-ผู้นำโลกชิงยินดี

ผู้นำของหลายประเทศต่างแสดงความยินดีต่อไบเดนตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ภายหลังการประกาศชัยชนะ ไม่ว่าจะเป็นชาติใหญ่ๆ ในซีกโลกตะวันตก ทั้งอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, สเปน และผู้นำชาติยุโรปอีกหลายชาติ ไปจนถึงซาอุดีอาระเบีย, ออสเตรเลีย, แคนาดา, อินเดีย, อินโดนีเซีย, อิสราเอล,  ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แต่ยังขาดชาติมหาอำนาจคู่แข่งของสหรัฐฯ ทั้งจีนและรัสเซีย และผู้นำชาติที่สนิทสนมกับทรัมป์อย่างบราซิลและเม็กซิโก ส่วนสโลวีเนีย ประเทศบ้านเกิดของนางเมลาเนีย ทรัมป์ นายกรัฐมนตรียาเนซ ยานซา ที่แสดงความยินดีกับทรัมป์ตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้ว ยังไม่มีปฏิกิริยาต่อชัยชนะของไบเดน

ว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน และ ว่าที่รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐฯ ประกาศจะแถลงเกี่ยวกับการต่อสู้โรคระบาดและการฟื้นเศรษฐกิจในวันจันทร์ (9 พ.ย.) หลังได้รับฟังการบรรยายสรุปจากทีมที่ปรึกษาด้านโควิด-19 ทั้งคู่ยังเปิดเว็บไซต์สำหรับการถ่ายโอนอำนาจ ที่ใช้ชื่อว่า BuildBackBetter.com และฟีดทวิตเตอร์ @Transition46 โดยบนเว็บนี้ ไบเดนระบุเป้าหมายสำคัญ 4 อันดับแรกๆ ที่จะแก้ไขเยียวยา ได้แก่ โควิด-19 การฟื้นเศรษฐกิจ ความเท่าเทียมด้านเชื้อชาติ และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และสำทับว่า จะจัดตั้งทีมถ่ายโอนอำนาจให้พร้อมจัดการความท้าทายเหล่านี้ตั้งแต่วันแรก ซึ่งหมายถึงวันที่ 20 มกราคมปีหน้าที่ไบเดนจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 46 ของอเมริกา

จีนและรัสเซียยังไม่แสดงท่าที

สนข.AP รายงานการแถลงของนายหวัง เหวินปิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวเมื่อ 9 พ.ย.63 ว่า แม้จีนรับทราบว่านายโจเซฟ ไบเดน ประกาศชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะต้องเป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมายสหรัฐฯ ซึ่งจีนจะปฏิบัติตามหลักสากล และยึดนโยบายไม่แทรกแซงการเมืองภายใน ไม่ว่าบุคคลใดจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ คนต่อไปก็ตาม ทั้งระบุว่า จีนและสหรัฐฯ ควรเสริมสร้างและขยายความร่วมมือบนพื้นฐานการเคารพซึ่งกัน ด้าน สนข.Reuters รายงานในวันเดียวกันโดยอ้างการเปิดเผยของ นาย Dmitry Peskov โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย จะยังไม่แสดงท่าทีหรือให้ความเห็นใดต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จนกว่าผลการนับคะแนนจะได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ

ส่วนดมิตรี เปสคอฟ โฆษกของทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียเห็นว่าเป็นเรื่องถูกต้องที่ควรรอผลคะแนนอย่างเป็นทางการก่อนจึงจะแสดงความยินดี ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเคยกล่าวไว้หลายครั้งว่าเขาจะเคารพการเลือกของชาวอเมริกัน