ดร.นิว แฉ ก๊วนส้ม วางแผนยุยงปลุกปั่น บิดเบือนใส่ร้ายสถาบัน นับ 10 ปี เจอที่ไหนให้เปิดเพลง หนักแผ่นดินให้ฟัง
จากกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้นำทีมผู้สมัคร นายก อบจ.ในจังหวัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สมุทรสงคราม ปราจีนบุรี ระยอง ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งในหลายจังหวัดก็เกิดเหตุการณ์การต่อต้านนายธนาธร เพราะมองว่า นายธนาธรเป็นคนต่อต้านสถาบัน และต้องการที่จะปฏิรูปสถาบัน ซึ่งทำให้คนที่จงรักภักดีไม่พอใจ ทำให้เกิดกระแสต่อต้านหลายครั้ง
ล่าสุดทางด้าน ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความกรณีของก๊วนส้ม ที่มีการบิดเบือนข้อมูล ใส่ร้ายสถาบันมาตั้งแต่ปี 2553 โดยระบุข้อความว่า
พบเจอคณะก้าวหน้าและเหล่าสมุนบริวารที่กระสันอยากได้อำนาจ จนถึงขั้นยอมอยู่ใต้เงาของคนคิดร้ายต่อแผ่นดิน
ประชาชนคนไทยที่รักทุกท่าน…
ช่วยกันชูโทรศัพท์มือถือของท่านขึ้นมา
ตอนผมเรียนธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2553-2557 พวกเขาเริ่มสร้างความเจ็บปวดให้กับคนไทยอย่างเป็นรูปธรรม ใช้ธรรมศาสตร์เป็นฐานสร้างความแตกแยก ล้างสมองนักศึกษาในห้องเรียน ผลิตหนังสือฟ้าเดียวกันเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์
ระหว่างที่ผมศึกษาต่ออยู่ที่สิงคโปร์ ยองเจีย เพื่อนชาวสิงคโปร์เคยกล่าวกับผมไว้ว่า… “สถาบันพระมหากษัตริย์คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของประเทศไทยซึ่งเป็นลักษณะพิเศษอันหาได้ยากยิ่ง ลองคิดดูนะ กว่าประเทศอื่นจะรวมผู้คนให้สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ประเทศไทยสามารถทำได้แค่ในชั่วพริบตา เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน ดังนั้นถ้าหากมีใครต้องการทำลายประเทศไทย หรือแทรกแซงประเทศไทยเพื่อผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง จึงไม่แปลกที่เขาต้องทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์”
มาถึงทุกวันนี้ พวกเขากลับมาสร้างความเจ็บปวดที่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยการขยับมาเล่นการเมือง ใช้สื่อมากมายที่พวกเขาสามารถควบคุมได้ในฐานะนายทุน โดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดียจำนวนมาก คอยป้อนข้อมูลบิดเบือนซ้ำๆ ระดมอัดโฆษณาเพื่อใส่ชุดความคิดของพวกเขา ยัดเยียดความเชื่อตามลัทธิของพวกเขาสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน สร้างความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยการบิดเบือนใส่ร้าย และสร้างวัฒนธรรมซอมบี้บูลลี่คนเห็นต่างอย่างกักฬะหยาบคาย เพื่อกลืนคนที่กลัวถูกบูลลี่ให้เข้าพวกด้วยความหวาดกลัว หรือไม่ก็ต้องทนอยู่ต่อไปอย่างเงียบๆ
ถ้าพวกเขามีอำนาจรัฐและเงินทุนของรัฐอยู่ในมือจากการเลือกตั้งท้องถิ่น มันคงไม่ใช่การปลุกระดมก่อม็อบแบบย่อมๆอย่างทุกวันนี้แน่ Uprising หรือ การลุกขึ้นก่อจลาจลคงจะลุกลามไปมากกว่านี้ และอาจจะกลายเป็น Armed Uprising หรือ การจลาจลแบบติดอาวุธ ตลอดจนสงครามกลางเมืองอันเนื่องมาจากความขัดแย้งแตกแยกที่พวกเขาเป็นคนก่อขึ้นก็คงหลีกเลี่ยงได้ยาก หากเราปล่อยให้มีวันนั้น ประเทศไทยจะบอบช้ำที่สุด และคนไทยทุกคนจะเป็นผู้พ่ายแพ้
เราจะยอมให้พวกเขาสร้างความเจ็บปวด ย่ำยีหัวใจของเรา ยัดเยียดความแตกแยกแบ่งแยกประชาชนต่อไปอีกนานแค่ไหน?
เรื่องนี้ต้องจบเร็วที่สุด ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
ดร.ศุภณัฐ
10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
#ประชาธิปไตยTheseries by ดร.ศุภณัฐ