อดีตบิ๊กข่าวกรอง อัดไม่ยั้งม็อบปั่นหัวทูต ใส่ร้ายกษัตริย์ไทย ข้อความชัดหมิ่นล่วงเกินผิดกม. คนเยอรมันรู้อะไรคือความจริง

4220

จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมในนามคณะราษฎร ได้เคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณหน้าสถานทูตเยอรมัน โดยหัวขบวนได้อยู่บริเวณสถานทูตเยอรมันขณะที่ท้ายขบวนอยู่บริเวณใต้สะพานไทย-เบลเยียม

โดยหลังจากขบวนเคลื่อนมาถึงก็ได้มีการเคลียร์พื้นที่ด้านหน้าประตูสถานทูตเพื่อเตรียมจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยผู้ชุมนุมได้มีการชูป้ายขนาดใหญ่เขียนว่าปฏิรูปสถาบัน ขณะที่แกนนำได้มีการอ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณหน้าสถานทูต นั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ Nantiwat Samart ระบุว่า มันมากเกินไป เมื่อวานนี้​ ม็อบร้อยชื่อชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมันที่ถนนสาธร​ พร้อมยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงเอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย​ เนื้อหาในจดหมายเป็นการใส่ร้าย​ กล่าวหาพระเจ้าแผ่นดินอย่างมีอคติชัดเจน​ เข้าข่ายผิด​กฎหมาย

รัฐธรรมนูญฉบับปี​ 2560​ มาตรา​ 6 บัญญัติชัดเจนว่า​ องค์พระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ​ ผู้ใดจะละเมิดมิได้​ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดมิได้​ หรือแม้แต่รัฐธรรมนูญ​ ฉบับปี​ 2475​ ฉบับที่คณะราษฎรจัดทำขึ้น​ มาตรา​ 3 ก็บัญญัติไว้ในทำนองเดียวกัน​ ไม่ผิดเพี้ยน

กลุ่มม็อบกล่าวหา​ จาบจ้วงอย่างรุนแรง​ ไร้หลักฐาน​ ไม่มีมูลความจริงว่า​ องค์พระประมุขบังคับฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองให้สูญหาย​ กล่าวหาว่า​ องค์พระประมุขสั่งราชการจากแผ่นดินเยอรมัน​ และเรียกร้องให้ทางการเยอรมัน​ PNG. ในหลวง

คนเยอรมันและรัฐบาลเยอรมันมีความสัมพันธ์และมีความเข้าอกเข้าใจคนไทยเป็นอย่างดี​ คนเยอรมันมีความรู้สึกที่ดี ๆ กับคนไทยและราชวงศ์​ นับตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จประทับเยอรมันสองครั้ง​ ตลอดจนการเสด็จเยือนเยอรมันของล้นเกล้ารัชกาลที่​ 9 ตลอดจนการเสด็จประทับเยอรมันของในหลวงองค์ปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นความลับและได้รับการต้อนรับอย่างดีจากรัฐบาลและคนเยอรมัน​ ตลอดจนรัฐบาลรัฐบาวาเลีย

การ​ PNG. จะกระทำต่อนักการทูตและบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐเจ้าของดินแดน​ และทางการเยอรมันคงไม่บ้าจี้​

ข้อกล่าวหาว่า​องค์พระประมุขทรงสั่งราชการจากแผ่นดินเยอรมัน​ ต้องเข้าใจให้ตรงกันนะ​ องค์พระประมุขทรงอยู่เหนือการเมือง​ ไม่ได้ทรงบริหารราชการแผ่นดินใด ๆ เลย​ การลงพระปรมาภิไธย​ต่อกฎหมายใด ๆ​ เป็นราชภารกิจในแบบพิธีเท่านั้น​ ไม่ใช่ในเนื้อหาของการบริหารราชการ​ ทรงทำในฐานะประมุขมิใช่ผู้บริหารรัฐบาลแบบประธานาธิบดี

ส่วนข้อกล่าวหาในเรื่องมาตรา​ 112 ลุงตู่ก็ชี้แจงผ่านสื่อและรับรู้กันทั่วไปอยู่แล้วว่า​ ในหลวงไม่มีพระประสงค์ให้ดำเนินคดีกล่าวโทษผู้ใดในความผิดตามมาตรา​ 112​ และตั้งแต่มีการม็อบมาจนถึงปัจจุบัน​ มีหลายเหตุการณ์ที่หมิ่นเหม่ว่าจะผิดตามมาตรา​ 112 แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่เคยกล่าวโทษใครในความผิดมาตราดังกล่าวเลย

คนทั่วประเทศ​ กลุ่มพลังเงียบได้เคลื่อนไหวแสดงตัว​ ประกาศความจงรักภักดีให้เห็นแล้ว​ คนส่วนใหญ่ของประเทศยังต้องการรักษาไว้ซึ่งสถาบันกษัตริย์​ ใครจะคิดล้มล้างเปลี่ยนแปลงไม่ได้