จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ส่งหนังสือเทียบเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เชิญร่วมรับประทานอาหารค่ำ ที่สโมสร ราชพฤกษ์ ถนนวิภาวดี
โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพปชร. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย นายวราวุธศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่าติดภารกิจปฏิบัติงานอยู่ต่างประเทศจึงไม่สามารถเข้าร่วมงานดังกล่าวได้ จึงเป็นนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ไปร่วมงานแทน
ล่าสุดวันนี้ (8 มีนาคม 2565) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการรับประทานอาหารเย็นร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในเย็นวันเดียวกันนี้ว่า ชทพ.ได้รับการเชิญจากนายกรัฐมนตรี ให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ร่วมรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน โดยน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชทพ. มอบหมายให้ตน และนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ไปเข้าร่วมรับประทานอาหารเย็นตามคำเชิญของนายกฯ
เชื่อว่าการพบปะกันครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการที่จะทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเตรียมเพื่ออะไรก็แล้วแต่ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลเองไม่ได้พบปะพูดคุยรับประทานอาหารร่วมกันมาระยะหนึ่งแล้ว และการพบปะกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลไม่น่าจะเป็นเพียงการพบปะกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เท่านั้น การที่นายกฯเชิญในครั้งนี้จะได้มีการคุยกันนอกรอบ หรือปรับความเข้าใจ หรือถ้ามีประเด็นใดก็จะได้พูดคุยหารือกัน เพราะอนาคตข้างหน้าหากมีปัญหาใดเข้ามาจะได้ช่วยกันแก้ไข
ส่วนตัวไม่มีประเด็นใดไปหารือกับนายกฯหรือพรรคร่วมรัฐบาล เพราะชทพ. ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราทำงานเต็มที่และมั่นใจในการทำงานกับรัฐบาล ถึงแม้ว่าจะมีหลายปัญหาเข้ามาให้พรรคร่วมรัฐบาลแก้ไข แต่เชื่อว่านายกฯสามารถใช้พละกำลังในการแก้ไขปัญหาได้ ถือเป็นสัญญาณที่ดี ไม่ได้มีปัญหาหรือคำถามอะไรที่จะให้นายกฯแก้ไขเป็นการเฉพาะเจาะจง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การพบปะครั้งนี้ มีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ เพราะเป็นการนัดท่ามกลางกระแสรัฐบาลระส่ำระสาย นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคงให้คำตอบเหมือนเดิมว่า รัฐบาลถูกคาดการณ์ว่าระส่ำกันมาตั้งแต่ปีแรก ถ้าจะถามว่าการรับประทานอาหารเย็นนี้จะเป็นการส่งสัญญาณอะไรนั้น คงเป็นการส่งสัญญาณว่าการทำงานของรัฐบาลยังอยู่ในเรือลำเดียวกัน หากเครื่องยนต์กลไกส่วนไหนเสีย หรือมีส่วนไหนรั่ว ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันปะผุ นำพารัฐนาวานี้ไปให้ถึงฝั่ง ตนยังมั่นใจว่ารัฐนาวานี้จะไปถึงฝั่ง และในที่สุดแล้วนายกฯจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะยุบหรือไม่ยุบ แต่วันนี้นายกฯยังให้สัญญาณด้วยความมั่นใจอยู่ว่า ยังเดินหน้าเต็มที่ในการที่จะพาไปถึงฝั่ง
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่านายกฯจะยุบสภาหนีก่อนเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนเชื่อว่านายกฯยังไม่ได้นึกถึงประเด็นนั้น เพราะแต่ละพรรคร่วมเองยังยืนยันว่าสนับสนุนนายกฯอยู่ ตอนนี้ยังไม่มีประเด็นเรื่องการยุบสภาแต่อย่างใด
ถามว่า การรับประทานอาหารครั้งนี้เป็นการเช็คเสียงหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า เชื่อว่าการเช็คเสียง เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการประชุมครม. ตั้งแต่นัดแรกแล้ว เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่า การทำงานเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่การรับประทานอาหารเย็นนี้เป็นเพียงแค่การกระชับมิตรระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น