ทัวร์ลง “สมศักดิ์เจียมฯ”ชมรบ.ไทยทำถูกไม่แส่รัสเซีย-ยูเครน! แหกหน้า “พิธา”ยับ

1285

จากที่กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่แถลงการณ์ของรัฐบาลไทย ต่อสถานการณ์ในประเทศยูเครน โดยระบุว่า ประเทศไทยได้ติดตามพัฒนาการในยูเครนด้วยความห่วงกังวลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการทวีความตึงเครียดในทวีปยุโรปนั้น

ทั้งนี้กระทรวงต่างประเทศ (กต.) หรือ รัฐบาลไทยระบุว่า สนับสนุนความพยายามที่ยังคงดำเนินอยู่เพื่อแสวงหาการแก้ไขสถานการณ์อย่างสันติผ่านการหารือ

ขณะที่นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งมีอาณาเขตดูแลประเทศยูเครนด้วย ได้หารือผ่านระบบทางไกลกับผู้แทนลูกจ้างชาวไทยจากร้านสปาในเมืองต่างๆ ของยูเครน กว่า 30 ราย เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อสอบถามถึงความเป็นอยู่และสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงข้อมูลด้านอื่นๆที่คนไทยในยูเครนต้องการหยิบยก

โดยตัวแทนคนไทยได้แจ้งว่าสถานการณ์ในพื้นที่ ทั้งกรุงเคียฟ เมืองโอเดซา เมืองลวิฟ และเมืองคาเคียฟ (ซึ่งติดชายแดนกับรัสเซีย) ยังถือว่าปกติ ไม่มีการกักตุนอาหาร และลูกค้าไม่ได้ลดลง ยกเว้นในเมืองท่องเที่ยว อาทิ เมือง Odesa  อีกทั้งคนไทยในยูเครนส่วนใหญ่ยังมีขวัญกำลังใจดี ใช้ชีวิตและทำงานกันตามปกติ แต่บางส่วนที่รู้สึกกังวลบ้างต่อสถานการณ์ความตึงเครียด แต่ได้เตรียมความพร้อมในระดับหนึ่งและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดจากสถานเอกอัครราชทูตฯ จากทางกลุ่มไลน์ที่สถานเอกอัครราชทูตตั้งขึ้น

ล่าสุดวันนี้ 26 กุมภาพันธ์ 2565 นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผู้ลี้ภัยคดีมาตรา 112 อยู่ในประเทศฝรั่งเศส และอดีตอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ถึงกรณีท่าทีของรัฐบาลไทยว่า

“กรณียูเครนนั้นเป็นเรื่องที่มีความลำบาก เราไม่อาจยอมรับ”ข่าวสาร”จากสื่อตะวันตกได้ล้วนๆ (ความพยายามของตะวันตก และผู้ปกครองยูเครน ที่จะขยายเนโต้เข้าชิดพรมแดนรัสเซีย) ขณะเดียวกันเราก็ไม่ควรสนับสนุนให้รัสเซียแก้ปัญหาด้วยสงคราม ท่าทีของกต. (และไทย) ที่ไม่พยายามเข้าไปเกี่ยวข้องนับว่าถูกต้องแล้ว”

ต่อมาเมื่อโพสต์ของอาจารย์สมศักดิ์ เผยแพร่ออกไปก็ทำให้คนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก หลายข้อความไม่เห็นด้วย และพยายามโจมตีเจ้าของโพสต์ เช่น

“ตรรกะ อาจารย์เพี้ยน หรือ อาจารย์เปลี่ยนไป ทั้งที่ตัวเองก็โดนกระทำยังจะให้สนับสนุนสิ่งที่ไม่ถูกต้องอีก”

“อาจารย์มีความเห็นโคตรแปลกเลย เอาสักทางเถอะครับ เหมือนออกความเห็นกลัวเจ็บตัว”

“ส่วนนักการเมืองไทยที่พยายามแสดงออก คือพวกหวังผลให้ชาติตะวันตกมาสนับสนุนตัวเองใช่มั้ย”

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ กรณีรัสเซียบุกยูเครนว่า

ผมขอสะท้อนคำพูดของประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelensky ว่า “สงครามเป็นการยกเลิกหลักประกันความมั่นคงของทุกฝ่าย ประชาชนจะเป็นผู้ที่เจ็บปวดมากที่สุด และประชาชนก็คือคนที่ต้องการสงครามน้อยที่สุด” และผมขอเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารจากยูเครนในทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข

สำหรับไทย วิกฤติรัสเซีย-ยูเครนที่ห่างไป 7 พันกว่ากิโลแต่ไม่ได้ไกลอย่างที่เราคิด

1) ราคาอาหารสัตว์ 2) ราคาปุ๋ย 3) ราคาน้ำมัน 4) ราคาโภคภัณฑ์ขึ้น 5- 15% ภายใน 24 ชม

ยังไม่รวมการค้าระหว่าง ไทย-รัสเซียที่มีมูลค่าเกือบ 1 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ นายพิธา ยังโพสต์ในเฟซกบุ๊กด้วยว่า รัฐบาลไทยต้องเตรียมรับมือกับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย – ยูเครน และความขัดแย้งกับกลุ่มนาโต ภาวะสงครามระหว่างรัสเซีย ยูเครน และความขัดแย้งกับกลุ่มนาโต จะทำให้สภาพการณ์โลกที่แย่อยู่แล้วจากโอมิครอนและเศรษฐกิจฟุบเฟ้อ จะส่งผลกับประเทศไทยอย่างน้อย 3 มิติที่จะกระทบกับปากท้องประชาชนโดยตรง

1) ราคาพลังงาน แก้สธรรมชาติและปุ๋ย 2) ราคาแร่ธาตุที่อุตสาหกรรมไทยต้องใช้ และ 3) ราคาอาหารสัตว์ กากถั่วเหลือง ข้าวสาลี

อาทิตย์ที่แล้ว ผมได้อภิปราย เตือน ซักถาม และเสนอแนะรัฐบาลไปแล้ว ว่าต้องคิดไปข้างหน้า และอีกอย่างที่สำคัญคือ ชีวิตคนไทยในยูเครน กว่า 250 ชีวิตที่ต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาลไทยครับ