ดับฝันทรัมป์!?บาดแผลบุกรัฐสภา ทำพรรครีพับลิกันแหยง ต้านอดีตปธน.ลงสมัครอีก

1111

พรรครีพับลิกันในคณะกรรมการปราบจลาจลของอาคารรัฐสภา (Capitol Hill) ฟันธงว่าโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ควรได้รับอนุญาตให้ลงสมัครรับตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในนามพรรครีพับลิกัน พร้อมเสนอบทลงโทษใหม่ทางอาญาให้กับอดีตประธานาธิบดีเพื่อป้องกันไม่ให้เขาก้าวสู่บัลลังก์อินทรีย์กลับมาครองสำนักงานรูปไข่อีกครั้ง

ปรากฏการณ์นี้สะท้อน ความขัดแย้งภายในพรรครีพับลิกันอย่างชัดแจ้ง เมื่อผลสำรวจบอกว่า ทรัมป์ฯยังทำคะแนนนำปธน.โจ ไบเดนคนปัจจุบันหากมีการเลือกตั้งในวันนี้ ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายคาดว่าทรัมป์จะถูกดำเนินคดีในข้อหาสนับสนุนความรุนแรง การก่อจลาจลในเดือนมกราคม 2564 วันพิธีสาบานตนของไบเดน แต่ในทางกฎหมายไม่สามารถเอาผิดเขาได้ ในขณะที่พรรคเดโมแครตพยายามขัดขวางทรัมป์อย่างเต็มกำลังก็ไม่สามารถทำลายความนิยมในตัวอดีตปธน.ผู้นี้ได้ จับตาในปีนี้ กระบวนการเขี่ยทรัมป์ออกจาก การชิงบัลลังก์ผู้นำสหรัฐฯจะดุเดือดแหลมคมมากแค่ไหน ทั้งจากเดโมแครตและภายในของรีพับลิกัน อาจทำให้ทรัมป์ต้องเลือกว่าจะต้องตั้งพรรคของเขาเอง “พรรคผู้รักชาติ” หรือ “The Pratriot” ที่เขาเคยกล่าวถึงก่อนหน้านี้หรือจะถอดใจ เพราะต้องตามสู้คดีอีกหลายคดี

วันที่ 3 ม.ค.2565 สำนักข่าวอาร์ที และเอบีซีนิวส์ รายงานว่า ลิซ เชนีย์ สภาคองเกรส จากไวโอมิง ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรกรณีจลาจลวันที่ 6 มกราคม กล่าวว่า ควรมีการดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ทำเนียบขาวอีก

ในการให้สัมภาษณ์กับ ABC News เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เชนีย์กล่าวว่าคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรกรณีวันที่ 6 มกราคม ซึ่งกำลังสืบสวนการบุกโจมตีศาลากลางเมื่อปีที่แล้ว โดยผู้สนับสนุนทรัมป์เพื่อประท้วงความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของเขาต่อโจ ไบเดน มี“คำให้การโดยตรง”ว่าประธานาธิบดีคนที่ 45 กำลังดูเหตุการณ์ทางโทรทัศน์ในห้องอาหารถัดจากสำนักงานรูปไข่เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ

เชนีย์ ลูกสาวของอดีตรองประธานาธิบดีดิ๊ก เชนีย์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรสงครามจากบทบาทของเขาในการบุกอิรักและการทรมานนักโทษที่คุกกวนตานาโม ยังอ้างว่ามีคำให้การโดยตรงว่าอิวานกา ทรัมป์ลูกสาวของทรัมป์ถามเธอ พ่อ“อย่างน้อยสองครั้ง”เพื่อขอให้ยุติความไม่สงบ

ลิซ เชนีย์กล่าวว่าคณะกรรมการ 6 มกราคมมีคำให้การโดยตรงว่าทรัมป์ดูการโจมตี อาคารรัฐสภาทางทีวีและปฏิเสธคำวิงวอนจากแมคคาธี (McCarthy) และอิวานกา( Ivanka) ขอให้เขาห้ามความรุนแรง เชนีย์กล่าวว่าเธอคิดว่าทรัมป์กลับไปที่สำนักงานสามารถห้ามความรุนแรงได้แต่เขาไม่ทำ และนั่นเป็นจุดสิ้นสุดของประชาธิปไตยของอเมริกา

เชนีย์กล่าวว่า “อาจมีบทบัญญัติทางอาญาที่จะดำเนินการในประเด็นนี้และมีบทลงโทษที่เพิ่มขึ้นสำหรับเรื่องนั้น ในประเด็นละทิ้งหน้าที่”

บทลงโทษดังกล่าวอาจห้ามไม่ให้ทรัมป์ลงสมัครรับเลือกอีกครั้ง โดยอ้างว่า“ใครคนใดที่ยั่วยุให้มีการทำร้ายร่างกายด้วยความรุนแรงในหน่วยงานของรัฐเพื่อหยุดการนับคะแนนเลือกตั้งนั้นชัดเจนว่าไม่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งในอนาคตและไม่สามารถอยู่ที่ใดก็ได้ ใกล้สำนักงานรูปไข่อีกครั้ง”

เมื่อถูกถามว่าเธอมีความคิดเห็นเหมือนกับฮิลลารี คลินตันหรือไม่ว่าหากทรัมป์ชนะตำแหน่งอีกครั้ง นั่นอาจเป็นจุดจบของระบอบประชาธิปไตยของอเมริกา เชนีย์กล่าวว่า “ฉันเห็นด้วย”เพราะประธานาธิบดีคนที่ 45 “ข้ามเส้นที่ประธานาธิบดีอเมริกันไม่เคยข้ามมาก่อน”

การสอบสวนของคณะกรรมการของสภาผู้แทนราษฎรดำเนินไปอย่างเต็มกำลัง ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการได้สัมภาษณ์ผู้คนมากกว่า 300 คน ออกหมายเรียกมากกว่า 50 ฉบับ และได้รับบันทึกหลายหมื่นรายการ

เชนีย์ย้ำว่า “พรรครีพับลิกันต้องเลือก เราสามารถภักดีต่อรัฐธรรมนูญของเราหรือภักดีต่อโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเราไม่สามารถเป็นทั้งสองอย่างได้”