ศรีสุวรรณ ร้องสอบจริยธรรม เจี๊ยบ นครปฐม โพสต์ด่ารัฐเฮงซวย

2742

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นการทั่วไปในโซเชียลมีเดียและสื่อสารมวลชนได้รายงานเป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 5 ม.ค.64ว่า นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

ได้เขียนโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ Amarat Chokepamitkul และเฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล โดยมีข้อความเหมือนกันทั้งสองเฟซบุ๊ก ความว่า “เรามีรัฐบาลที่โหนเจ้าและเกาะเชื้อโรคเพื่ออยู่รอดไปวัน ๆ ส่งลูกไปเที่ยวห้างได้แต่ส่งไปโรงเรียนไม่ได้ กับอีกหลายมาตราการรับมือโควิด-19 ของรัฐบาลเฮงซวยที่มีแต่ความลักลั่น” นั้น

การโพสต์ข้อความดังกล่าว ชี้ให้เห็นถึงการมี “เจตนา” ที่จะใช้ข้อความดังกล่าว ให้บุคคลที่สามหรือผู้ที่เห็นหรืออ่านข้อความรู้สึกเกลียดชังรัฐบาล เนื่องจากคำว่า “เฮงซวย” เป็นคำผรุสวาทที่วิญญูชนทั่วไปต่างเข้าใจดีว่าเป็นคำหยาบ

และตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน 2554 ให้หมายความคำว่า “เฮงซวย” ว่า เอาแน่นอนอะไรไม่ได้ คุณภาพต่ำ ไม่ดี ซึ่งมีความหมายในทางเสื่อมเสีย การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นผู้ทรงเกียรติ ได้เขียนโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กสื่อสาธารณะโดยใช้คำว่า “เฮงซวย” เพื่อประจานรัฐบาลให้ปรากฏต่อสาธารณะ จึงเป็นถ้อยคำที่เป็นการดูถูกเหยียดหยามและสบประมาทรัฐบาลของประเทศ

การกระทำดังกล่าวจึงอาจเข้าข่ายเป็นความผิด ฐานหมิ่นประมาท และหรือดูหมิ่นผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา ม.136 ม.326 และหรือ ม.393 โดยชัดแจ้ง ซึ่งลักษณะดังกล่าวมีแนวคำพิพากษาของศาลฎีกาไว้เป็นบรรทัดฐานแล้วหลายคำพิพากษา อาทิ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2551, คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3920/2562 เป็นต้น ซึ่งการด่ารัฐบาลนั้น เคยมีการตีความว่า รัฐบาลเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ คือ คำพิพากษาของศาลฎีกาเลขที่ 3578/2560เป็นต้น

นอกจากนั้น ยังอาจเข้าข่ายความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม 2560 ม.14(2) ซึ่งต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และที่สำคัญคือ การฝ่าฝืนข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ 2563 ข้อ ข้อ 9 ข้อ 10 ข้อ 11 และข้อ 12 ที่ระบุไว้ชัดแจ้งว่า สส.ต้องไม่แสดงกิริยาหรือ ใช้วาจาอันไม่สุภาพ มีลักษณะเป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท เสียดสีหรือใส่ร้ายป้ายสีบุคคลใด

ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความส่งคำร้องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อมอบให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ทำการไต่สวน สอบสวน และลงโทษตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฯ 2563ประกอบมาตรฐานจริยธรรม ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.219 ต่อไป

ก่อนหน้านั้น นางอมรัตน์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีที่รัฐบาลได้ประกาศปิดโรงเรียน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาโควิดของรัฐบาล โดยระบุข้อความว่า

เรามีรัฐบาลที่โหนเจ้าและเกาะเชื้อโรคเพื่ออยู่รอดไปวัน ๆ ส่งลูกไปเที่ยวห้างได้แต่ส่งไปโรงเรียนไม่ได้ กับอีกหลายมาตราการรับมือโควิด-19 ของรัฐบาลเฮงซวยที่มีแต่ความลักลั่น อ่านแล้วสะเทือนใจมาก คิดถึงคนที่ฆ่าตัวตายเพราะผลกระทบจากการล็อคดาวน์ในปีที่ผ่านมา #โควิด19

อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงเท่านั้น จากการที่ นางอมรัตน์โพสต์ข้อความดังกล่าว ก็มีสื่อดังได้นำเสนอข่าว ซึ่งต่อมาทางนางอมรัตน์ ไม่พอใจจนประกาศว่า ปรึกษาทีมกฎหมายแล้วตัดสินใจดำเนินคดีกับสื่อไร้จรรยาบรรณเพื่อลดมลพิษของสังคม