สหรัฐวุ่นไม่เลิก??ประท้วงปะทุทั่วนิวยอร์กต้านบังคับฉีดวัคซีน ต้องใช้ทหารแทนหมอ-พยาบาลที่ถูกไล่ออกแล้ว

1592

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา คนอเมริกันก่อประท้วงรวมตัวกันรอบๆ สถานที่ต่างๆ ในนิวยอร์กซิตี้ และทางตอนเหนือของรัฐ เรียกร้องให้รัฐบาลปธน.โจ ไบเดนยกเลิกคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนสำหรับคนงานทั่วประเทศ และระบบการใช้วัคซีนพาสปอร์ต ที่เริ่มดำเนินการในนิวยอร์ค

ผู้ประท้วงเดินขบวนในแมนฮัตตัน,เกาะสตาเตนและที่อื่นๆ ในบ่ายวันจันทร์ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงตอนเย็น มีผูเข้าร่วมจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 คน

ผู้ประท้วงต่างร้องว่า “ร่างกายของฉัน ฉันเลือกเอง!” บางป้ายเขียนว่า”ไม่หมายความว่าไม่!” และบางป้ายใช้คำแรงชนิด “แจกกล้วย” ให้ประธานาธิบดีและนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก บางคนยกป้ายต่อต้าน”คำสั่งทางการแพทย์ ” และ”หนังสือเดินทางดิจิทัล”ในขณะที่เรียกร้อง”เสรีภาพด้านสุขภาพในขณะนี้”

การประท้วงอื่นๆ ปะทุขึ้นทางตอนเหนือเช่นกัน เช่น ในโรเชสเตอร์ซึ่งกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันเพื่อประท้วงคำสั่งให้วัคซีนสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์นอกโรงพยาบาลสตรองเมมโมเรียล

คำสั่งสำหรับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลทุกคนมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ โดยกำหนดให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19อย่างน้อย 1 เข็ม ผู้ที่ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามอาจเสี่ยงต่อการตกงาน

ในขณะที่พนักงานในโรงเรียนของนครนิวยอร์ก ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 150,000 คนในระบบการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้รับคำสั่งให้รับวัคซีนเข็มแรกในเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา  ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสั่งห้ามชั่วคราวไม่ให้มีการ อย่างไรก็ตาม เมชา พอร์ตเตอร์ (Meisha Porter) อธิการบดีโรงเรียนในเมืองนิวยอร์ก กล่าวว่า เธอคาดว่าข้อบังคับคงต้องปฏิบัติตาม ขณะนี้พนักงานของโรงเรียนจะต้องระดมฉีดเข็มแรกภายในวันที่ 4 ตุลาคม ภายใตัการดูแลของคณะกรรมการ3คน

นอกจากข้อบังคับสำหรับคนงานบางประเภทแล้ว ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ชาวนิวยอร์กยังต้องแสดงหลักฐานว่าพวกเขาได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย หนึ่งโดส มิฉะนั้นจะถูกห้ามเข้าร้านอาหารและสถานที่สาธารณะอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง นิวยอร์กจัดเป็นเมืองใหญ่เมืองแรกในสหรัฐฯ ที่เปิดตัว “หนังสือรับรองฉีดวัคซีน” หรือที่เรียกว่า วัคซีนพาสปอร์ต ซึ่งเป็นนโยบายบังคับฉีดวัคซีนแบบเดียวกับ การดำเนินการในฝรั่งเศสและอังกฤษ รัฐและท้องถิ่นอื่นๆ เช่น ฮาวาย ก็เริ่มบังคับใช้เช่นกัน

ปัญหาขาดแคลนแพทย์พยาบาล เริ่มเกิดขึ้ดชัดเจนเพราะ มีแพทย์และพยาบาลจำนวนไม่น้อยที่ปฏิเสธฉีดวัคซีน ทำให้มีการลาออกบ้างถูกไล่ออกบ้าง นิวยอร์กอาจต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่ทหารของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ(National Guard) เพื่อแทนที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งวัคซีน Covid-19 ของรัฐ เคที โฮชูล(Kathy Hochul)ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า ผู้ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนคือพวกไม่ได้ฟังพระเจ้า

จากข้อมูลของสำนักงานผู้ว่าการ ฝ่ายบริหารกำลังพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อ“อนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในรัฐและประเทศอื่น ๆ”ได้รับอนุญาตให้ทำงานในรัฐได้ง่ายขึ้น ความเป็นไปได้อีกประการหนึ่งในการจัดการกับศักยภาพของโรงพยาบาลบางแห่งที่สูญเสียคนงานหลายพันคนที่ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามอาณัติของรัฐรวมถึงการนำทหารของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ(National Guard) เข้ามาแทนที่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรับมือกับสถานการณ์

คำสั่งบังคับฉีดวัคซีนในนิวยอร์กซิตี้สำหรับครูและพนักงานโรงเรียนของรัฐอื่น ๆ มีการฟ้องร้องหลายคดีและเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับคำสั่งห้ามเคลื่อนไหวต่อต้านชั่วคราว

คำสั่งดังกล่าวยังนำไปสู่ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนแพทย์ พยาบาลซึ่งอยู่ในภาวะตึงเครียดอยู่แล้วใหัแย่ลงไปอีก จึงจำเป็นต้องเรียกกองทหารพิทักษ์มาตุภูมิ เพื่อมาเสริมกำลังคนเพื่อจัดการกับวิกฤตขาดแคลนผู้ปฏิบัติงานรับมือภัยพิบัติ โรคบาดโควิด-19 กลุ่มต่อต้านการบังคับฉีดวัคซีนวิพากษ์วิจารณ์ว่าวิกฤตขาดแคลนกำลังคนของรัฐเป็นปัญหาที่พวกเขาสร้างขึ้นเอง ปัญหาการขาดแคลนที่เกิดขึ้น ลุกลามถึงบ้านพักคนชราแวน ดีน (Van Duyn) ในเมืองซีราคิวส์ด้วย

สถานการณ์ปั่นป่วนที่เกิดขึ้น เป็นภาพสะท้อนของวิกฤตศรัทธา ที่คนอเมริกันจำนวนไม่น้อยมีต่อประธานาธิบดีไบเดนและรัฐบาล ในขณะที่สหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยมากที่สุด และเสียชีวิตมากที่สุดในโลก ทั้งๆที่มีวัคซีนขั้นเทพเหลือเฟือ 

ล่าสุดวันที่ 3 ตุลาคม 2564 คนอเมริกันป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 43.5 ล้านคน เสียชีวิต 699,000 ราย