จากที่เพจเฟซบุ๊คกลุ่มสีขาวบริสุทธิ์ หยุดสีเทาได้เผยแพร่เนื้อหาระบุว่า ความสำเร็จในครั้งที่ผ่านมา ของการเลือกตั้ง ส.ส. แห่งภาคใต้ ภายใต้การนำทัพของ พ.อ.สุชาติ จันทร์โชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคพปชร. ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม
ทั้งนี้โดยอ้างว่า ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน การมาใหม่ในครั้งนี้ เสียงปี่เสียงกลอง ดั่งลั่นแน่นอน กวาด ส.ส.ในภาคใต้เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น ทั้งยังมีแบนเนอร์ข้อความระบุคำพูดของ พ.อ.สุชาติ อีกว่า ต้นเดือนหน้า (ตุลาคม) น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องพรรคใหม่ที่สื่อเสนอกันมาตลอดว่า มีปลัดฉิ่ง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ 30 กันยายน ผลักดัน
“ส่วนผมเองไม่ได้ช่วยงานพรรคพลังประชารัฐแน่นอนในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรุ่งนี้ (30 กันยายน) จะเรียกทีมงานหารือวางแผนการทำงานในพื้นที่ ส่วนส.ส.พลังประชารัฐในภาคใต้ที่ได้รับเลือกมา 13 คนนั้น เพราะกระแสความนิยมในตัวของนายกฯผมยังมั่นใจว่า ในภาคใต้ความนิยมในตัวนายกฯ ไม่ได้ลดลง”
สำหรับ พ.อ.สุชาติ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเป็น 1 ในผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ เป็นขุนพลคนสำคัญของพรรคในการเลือกตั้งใหญ่ เมื่อเดือนมีนาคม 2562 ได้รับเลือกตั้งจำนวน 13 คนในขณะที่พรรคใหม่ที่จะเข้าสังกัด มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ เป็นแกนนำ จะเปิดตัวหลังนายฉัตรชัย เกษียณอายุราชการหลังวันที่ 30 กันยายน 2564
โดยมีรายงานว่า พรรคใหม่ได้รับการสนับสนุนจากพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อถ่วงดุลกับพรรคพลังประชารัฐ
กระนั้นความเคลื่อนไหวที่ทุกคนจับตา จึงพุ่งเป้าไปที่ ปลัดกระทรวงมหาดไทยนั่นคือ “บิ๊กฉิ่ง” นายฉัตรชัย พรหมเลิศ” ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้
โดยที่ผ่านมาผลงาน “บิ๊กฉิ่ง” ได้สร้างไว้ระหว่างที่นั่งเก้าอี้ปลัด มท. มีมากมาย และยังมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และด้วยความที่มีจุดแข็งเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี มีความยืดหยุ่น ประนีประนอมสูง สนองนโยบายได้ดี
เส้นทางการรับราชการของ “บิ๊กฉิ่ง” นายฉัตรชัย พรหมเลิศ” ก่อนได้รับแต่งตั้งและเข้ารับตำแหน่ง”ปลัดมหาดไทย” คนที่ 39 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เริ่มชีวิตราชการจากการเป็นปลัดอำเภอดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อมีการปรับปรุงกระทรวงทบวงกรมฯเมื่อปี 2545 “บิ๊กฉิ่ง” จึงโยกตัวเองมาอยู่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ซึ่งเป็นกรมที่ตั้งขึ้นใหม่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย
กระทั่ง วันที่ 1 ตุลาคม 2552 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี มีผลงานที่รู้คือ เมื่อครั้งน้ำท่วมปี 2554 ประตูระบายน้ำบางโฉมศรีแตกไหลทะลักเข้ามารอบนอกของลพบุรี “บิ๊กฉิ่ง”ได้แก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน จากอุทกภัยน้ำท่วม ด้วยการการแก้ไข ปัญหาทำให้น้ำไม่ท่วมขังเข้าตัวเมือง
ก่อนขยับขึ้นเป็นอธิบดี ปภ. เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2555 สร้างผลงาน ด้านแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และกำหนดนโยบายด้านความปลอดภัย สร้างระบบป้องกัน เตือนภัย ฟื้นฟูหลังเกิดภัย และการติดตามประเมินผล เพื่อให้หลักประกันในด้านความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งยังคงใช้เป็นแนวทางการแก้ปัญหาน้ำท่วมจวบจนปัจจุบัน ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นปลัดมหาดไทย
นับเป็นอธิบดี ปภ.คนที่สองที่ข้ามขึ้นมานั่งปลัด มท. ต่อจาก นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดี ปภ. พลิกโฉมของการเป็นปลัด มท. ที่ไม่จำเป็นต้องผ่านงานตำแหน่งในสายงานนักปกครอง อย่าง นายอำเภอ หรือ ปลัดจังหวัด หรือรองผู้ว่าฯ มาก่อนก็ได้ ส่งผลให้ในวันที่ 30 กันยายนนี้ “บิ๊กฉิ่ง” จะครบเกษียณอายุการดำรงตำแหน่ง ครบ 4 ปีเต็ม
ดังนั้นเองที่ต้องจับตาดูว่า นับตั้งแต่ 30 กันยายน 2564 เป็นต้นไป “บิ๊กฉิ่ง” นายฉัตรชัย จะเลือกใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุราชการด้วยการอยู่บ้านอย่างสงบ หรือเลือกเดินบนถนนการเมือง ไปตั้งพรรคใหม่ รองรับ บิ๊กตู่ น้องรัก บิ๊กป๊อก เพื่อนั่งนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกสมัยหรือไม่??? ไม่นานได้รู้กัน!?!?