จากกรณที่วันนี้ (1 กันยายน 2564) นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งมีบางช่วงที่นายขจิตร ได้กล่าวว่า
ท่านพลเอกประยุทธ์ ผมอยากพูดกับท่าตรงๆได้ไหม พอเห็นท่านเป็นนายกฯหรือผมอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก ในการเป็นผู้แทนราษฎรจริงๆเลย เพราะถ้าความรู้ความสามารถเท่านี้ ความสำนึกเท่านี้ หลายคนก็ด่าท่านไม่มีจิตสำนึก ผมว่ามันยังไม่พอนะ มันมีอะไรอีกที่จะด่ามากกว่านี้ ด่าแล้วให้เกิดสำนึก ผมเลยพูดกับเพื่อนๆว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่มีจิตสำนึกถึงความเดือดร้อน ถึงความรับผิดชอบ ท่านพลเอกประยุทธ์ ท่านรู้จักความรับผิดชอบมั้ย ไหนบอกว่า สัญญาอีกไม่นานจะคืนความสุข7 ปี นี่มันนานนะ ถ้าปีเดียวไม่นาน ยึดอำนาจแล้วร้องเพลงอ๋อยๆ แต่งเพลงก็ได้ ร้องเพลงก็ได้ ล้มเหลวสิ้นท่า ประชาชนไทยเขาอยากได้ประเทศไทยคืน เขาบอกผ่านผมมา เขาบอกมาก เขาฝากนู่นฝากนี่มา
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจง ภายหลังถูกนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยอภิปราย ว่า ตนนั่งฟังมาตั้งแต่เช้า มีคำพูดหลายอย่างที่เห็นว่าไม่สมควรในการที่จะใช้ในสภา วันนี้ยังพูดถึงแต่เรื่องก่อนที่จะยึดอำนาจ ถามว่าถ้าไม่มีการทุจริตในช่วงที่ผ่านมา ตนว่าเขาจะได้เงินมากกว่านี้ด้วยซ้ำ นี่คือข้อเท็จจริง ซึ่งข้อมูลการอภิปรายไม่มีอะไรใหม่เลย
และการที่นายขจิต บอกว่าอยากเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ตนก็ขออวยพรให้ท่านสมหวัง ในการเลือกตั้งคราวหน้าก็แล้วกัน ไว้ให้ท่านเป็นรัฐบาลแล้วก็หาเงินมาให้ได้ตามที่บอก และจะใช้เงินยังไงก็ได้ แต่ก็ต้องระวังเพราะอาจจะไม่ได้อยู่ในประเทศเหมือนอย่างบางคนที่ผ่านมา อันนี้เป็นข้อเท็จจริง ตนฟังที่ฝ่ายค้านพูดมา แต่ก็ต้องฟังตนพูดบ้าง อย่าโกรธก็แล้วกัน เพราะตนไม่เคยโกรธพวกท่าน และตนพูดมาหลายวันแล้ว ไม่เข้าใจ หรือแกล้งไม่เข้าใจหรือเปล่าเรื่องโควิด เพราะไม่มีรัฐบาลไหน เจอปัญหาโควิดเหมือนรัฐบาลนี้ เมื่อเปิดประเทศ ทำโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ก็พาม็อบไปชุมนุมเหมือนไม่อยากให้เกิดโครงการนี้ เหมือนไม่อยากให้มันดี ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไรเหมือนกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า การมีผู้เสียชีวิต เพราะโควิด-19แม้แต่ 1 คน ตาก็เสียใจ และต้องขอโทษ ที่ทำให้เขาตาย แต่ก็ตาย เพราะโควิดใช่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนไม่เคยเจราจานอกรอบหรือนอกกรอบกับเจ้าสัว และนายทุนรายใด หรือจะให้อะไรใคร ตนไม่เคยจริงๆ ไม่ใช่นิสัยของตน เพราะตนมีศักดิ์ศรีให้เกลียดซึ่งกันและกัน พูดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ยืนยันรัฐบาลทุ่มเททำงานเพื่อประชาขนต่อไป ตนจะฟังแต่สิ่งที่เกิดประโยชน์ ด้อยค่ากันไป ไม่เกิดประโยชน์กับประเทศช่วยระมัดระวังด้วย เพราะประชาชนฟังอยู่
และวันนี้พูดเรื่องรัฐประหารตั้งแต่ปี 57 ปีนี้ปี 64แล้ว ใช้รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันหรือมากันคนละฉบับ ตนไม่แน่ใจ จะมาอ้างเอื้อประโยชน์ให้ตนเป็นรัฐบาล ก็ไปสู้กันวันหน้าให้ประชาตัดสิน อย่าเป็นคนเบื่อง่าย มันเบื่อเพราะอะไร เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ ไปคิดกัน ทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว ตนไม่อยากก้าวล่วงและไม่อยากพูดอะไรที่ผิดกฎหมายและไม่มีหลักฐานจะไม่พูด เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ ทั้งนี้ เรื่องยาเสพติดหรือเรื่องร้องเรียนอะไรส่งมาที่ตน เขียนหน้าซองส่งมาที่ตน แล้วดูว่าตนจะจับได้หรือไม่ ไม่ว่านะใครทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ ถ้าไม่แจ้งมาจะรู้หรือไม่ คนดีก็ทำงาน คนชั่วมีอยู่ทุกที่ ยืนยันตนไม่เคยโกหกใคร แน่นอนตนทำแบบนี้ไม่มีใครรัก เพราะมันช้า สู้ทำง่ายๆเอาไปๆง่ายกว่าแล้วเป็นยังไง เกิดเหตุการณ์อะไรจำไม่ได้หรือ ฉะนั้นอย่าพูดเอาดีเข้าตัว
