จีน-สหรัฐ-รัสเซียร่วมเวทีประชุมโอเปค!?!เห็นพ้องโควิดปัญหาร่วมต้องช่วยกัน ขณะจีนจัดอีก 3,000 ล้าน$ช่วยปท.ยากจน

1388

กลุ่มประเทศสมาชิกเอเปค มีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจการค้าของมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐ-จีน-รัสเซียต่างไม่พลาดเข้าร่วมประชุมแม้จะเป็นการประชุมออนไลน์ นับว่าเป็นครั้งแรกในการพบกันในคราวเดียวของ3 มหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ แต่บรรยากาศในเวทีประชุมไม่สมานฉันท์อย่างที่ควรจะเป็น เพราะมีความไม่ลงรอยของแนวความคิด ในการแก้ไขปัญหาและแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด ขณะที่ไทยจะต้องรับไม้ต่อในการเป็นประธานจัดประชุมเอเปค ที่จะเริ่มปลายปีนี้ไปจนถึงปีหน้า

ในวันศุกร์ที่ 16 ก.ค.2564 การประชุมซัมมิตความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก APEC 2021 พบว่าบรรดาผู้นำของกลุ่มการค้าเอเชีย-แปซิฟิกรวมถึงมหาอำนาจทั้งสาม สหรัฐ-รัสเซีย-จีนต่างให้คำมั่นที่จะดำเนินการเพื่อขยายการแบ่งปันและการผลิตวัคซีน COVID-19 เพื่อต่อสู้การระบาดใหญ่ทั่วโลก ขณะที่จีนประกาศทันทีจะมอบเงินสนับสนุนจำนวน 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯใช้รับมือการระบาดในบรรดาชาติกำลังพัฒนา

การประชุมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นแบบออนไลน์และมีผู้นำชาติสำคัญของโลกเข้าร่วมได้แก่ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ ซูงะ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปธน.สี จิ้นผิงกล่าวผ่านแถลงการณ์ที่มีการบันทึกไว้ล่วงหน้าและได้นำออกมาแสดงในระหว่างการหารือปิดลับว่า ทางปักกิ่งพร้อมที่จะสนับสนุนงบประมาณ 3พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้กับชาติที่ยากจนสำหรับการป้องกันการระบาดโควิด-19

และจีนได้รายงานต่อที่ประชุมว่า ปักกิ่งได้ส่งมอบวัคซีนของตัวเองจำนวนกว่า 500 ล้านโดสไปยังชาติกำลังพัฒนาอื่นๆกล่าวถึงการเผชิญกับ COVID-19 ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และโอกาสร่วมมือเพื่อก้าวผ่านวิกฤตสุขภาพ ตลอดจนเร่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในลักษณะที่วางรากฐานสำหรับอนาคตที่ดีกว่าได้อย่างไร?

ขณะเดียวกันประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้กล่าวกับผู้นำประเทศสมาชิกที่ร่วมการประชุมเช่นกันว่า เขาเตรียมส่งมอบวัคซีนจำนวนมากกว่า 500 ล้านโดสไปทั่วโลก และประกาศว่าสหรัฐจะเป็นคลังกระสุนวัคซีนของโลก

ปธน.ปูตินแห่งรัสเซีย กล่าวว่าจำเป็นต้องขจัดอุปสรรคในการผลิตและการส่งมอบวัคซีนทั่วโลก ด้านนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สุกะ ของญี่ปุ่นแสดงความมุ่งมั่นต่อผู้นำคนอื่นๆ ที่จะจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปลอดภัยให้ได้

แม้จะมีการแสดงวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหา แต่ก็มีความตึงเครียดในหมู่สมาชิก APEC โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างตะวันตกและจีน – ในประเด็นต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19 ไปจนถึงปัญหาซินเจียงฮ่องกงและทะเลจีนใต้

สำนักข่าวเดอะโคลัมเบียนชี้ว่า ไบเดนไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของตัวเองที่ตั้งไว้ก่อนหน้าว่าจะทำการส่งมอบวัคซีน 80 ล้านโดสไปยังทั่วโลกได้ทันภายในสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเนื่องมาจากติดปัญหาด้านขนส่ง

ประเด็นการให้ภูมิคุ้มกันทางวัคซีนกลายเป็นประเด็นร้อนที่มีความเห็นแตกออกเป็นฝักเป็นฝ่ายภายในชาติสมาชิก APEC ที่กล่าวว่า เป้าหมายหลักคือการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และความรุ่งเรืองในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแต่ต่างกังวลว่าจะก้าวผ่านการระบาดใหญ่โควิด-19 ได้อย่างไร

เดอะโคลัมเบียนรายงานว่า ภายในการประชุมยังมีการทุ่มเถียงและการตัดพ้อ โดยตัวแทนไต้หวันที่เข้าร่วมกล่าวหาว่า ปักกิ่งพยายามใช้วัคซีนเพื่อวาระแอบแฝงทางการเมือง และยังใช้อิทธิพลเข้าขวางการส่งวัคซีนโควิด-19ให้ไต้หวันจากญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ขณะที่ทางการจีนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาโดยตลอด และทางการไต้หวันแสดงอคติต่อวัคซีนจีนตั้งแต่เริ่มการระบาด โดยปฏิเสธการช่วยเหลือวัคซีนจากจีนอย่างโจ่งแจ้ง

เอเปค เป็นกรอบความร่วมมือของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประกอบด้วยสมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี จีน จีนฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ จีนไทเป ไทย สหรัฐฯ และเวียดนาม โดยในปี 2563 การค้าของไทยกับกลุ่มเศรษฐกิจเอเปคมีมูลค่า 315,667 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนถึง 71.9% ของการค้ารวมของไทย เป็นการส่งออกจากไทยไปเอเปค 164,955 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือสัดส่วน 71.2% ของการส่งออกรวมของไทย และนำเข้าจากเอเปค 150,711 ล้านเหรียญสหรัฐ  หรือสัดส่วน 72.8% ของการนำเข้ารวมของไทย

ประเทศไทยเตรียมรับไม้เป็นเจ้าภาพประชุมเอเปคปี 65 ต่อจากนิวซีแลนด์ และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ในช่วงเดือนธันวาคม 2564 ถึงพฤศจิกายน 2565 รวมทั้งสิ้น 15 ครั้ง ประกอบด้วยการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส 5 ครั้ง การประชุมระดับรัฐมนตรี 9 ครั้ง และการประชุมระดับผู้นำ 1 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีการประชุมและ/หรือกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติมตามที่ส่วนราชการจะเป็นเจ้าภาพ เช่น การจัดกิจกรรมสัปดาห์ความมั่นคงทางอาหาร (Food Security Week) และการดำเนินโครงการโรงเรียนเครือข่าย APEC เป็นต้น

ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในเขตเอเปกมากกว่า 50 ล้านราย โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 1 ล้านราย ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของ APEC หดตัวร้อยละ 1.9 ในปี 2563