“จตุพร” อ้าซ่า! ขอเปิดรับทุกกลุ่มมาร่วม ยอมรับสภาพ คนมาน้อย หมดท่าตามก้นเด็กรับลูกตลาดราษฎร โจมตีรบ.!?

2533

“จตุพร” อ้าซ่า! ขอเปิดรับทุกกลุ่มมาร่วม ยอมรับสภาพ คนมาน้อย หมดท่าตามก้นเด็กรับลูกตลาดราษฎร โจมตีรบ.!?

จากกรณีที่วันนี้ (3 ก.ค.64) กองบัญชาการตำรจนครบาล หรือ บช.น. พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานโฆษกบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอง รองผบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. ได้ทำการแถลงการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การชุมนุมและแผนเส้นทางการจราจรในวันนี้

โดย พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า แนวทางการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมมีการประกาศเชิญชวน 2 กิจกรรม คือ กลุ่มประชาชนคนไทยมีการประกาศผ่านโซเซียลมีเดียรวมตัวบริเวณแยกอุรุพงษ์มาหยุดที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ และกลุ่มคนไทยไม่ทน มีการเชิญชวนชุมนุมสะพานผ่านฟ้าเคลื่อนที่มาหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยห้ามชุมนุมบริเวณดังกล่าวเด็ดขาดจะมีการตั้งแนวป้องกัน

สำหรับการดำเนินการกับผู้ชุมนุมแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มคณะราษฎรเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการรวมตัวช่วงเวลา 16.00 น. เคลื่อนตัวมาที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ มีความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ, พ.ร.บ.ความสะอาด, พ.ร.บ.การใช้เครื่องกระจายเสียงพ.ร.บ.โรคติดต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดผู้กระทำผิดทุกราย ขอแจ้งเตือนว่าห้ามมีการชุมนุม เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจนำเชื้อโรคดังกล่าวไปติดครอบครัวและถูกดำเนินคดีได้

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า นอกจากกลุ่มผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม ยังมีกลุ่มใช้รถขับไปโดยใช้ถนนราชดำเนินกลาง จึงส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะไม่ปิดการจราจร โดยจะจัดการจราจรให้กระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด โดยจะเริ่มในเวลา 16.00 น. ถนนราชดำเนินกลาง เวลา 17.00 น. ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดยขอให้หลีกเลี่ยงการจราจรตั้ง แต่เวลา 14.00 น.

ทั้งนี้ ในส่วนของม็อบสมบัติทัวร์ขับรถบีบแตร ของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุดนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า กรณีมีการขับรถเป็นขบวนมีลักษณะกีดขวางจราจรก่อความเดือดร้อนประชาชนรายอื่น หรือเกิดอันตรายมีความผิดขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ตามพ.ร.บ.ทางบกฯ พนักงานสอบสวนอาจยึดรถไว้เป็นของกลางการกระทำผิด โดยจะมีการบันทึกภาพและเสียง รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝากเตือนการกระทำเช่นนั้นเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ได้เตรียมกำลังไว้ 9 กองร้อย ทั้งนี้ยืนยันว่าเตรียมกำลังไว้ตามสถานการณ์และการข่าวเพียงพอ เน้นบริเวณทำเนียบรัฐบาลเป็นหลัก

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมามีการสร้างการรับรู้ และมีการเตือนให้ทราบ เชื่อว่าหลายๆ คนที่ติดตามข่าวสารการเมืองในประเทศไทย จะทราบอยู่แล้วว่าอะไรที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย อะไรที่เป็นสิทธิและหน้าที่ แต่อย่าลืมว่าแม้จะมีสิทธิตามกรอบและกฎหมายแต่สิทธิของท่านจะต้องไม่กระทบกับการใช้ชีวิตปกติสุขของคนอื่น ซึ่งนับตั้งแต่เดือน ก.ค.63 ได้ดำเนินคดีไปแล้วกว่า 200 คดี ทั้งนี้มีการแจ้งเตือน หากยังมีเจตนากระทำความผิด จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน

โดยเมื่อวานนี้ (2 ก.ค. 64) นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มไทยไม่ทน ได้กล่าวว่า ในการต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงนั้นสิ่งสำคัญคือการไม่ยึดเหนี่ยว นักปฏิวัติหลายคนในอดีตมีความเชื่อว่าการปฎิวัติคือการสร้างความเปลี่ยนแปลงถือเป็นจุดยืนเป็นหน้าที่แม้จะต้องถูกจับกุมถูกฆ่าตายมากมาย การขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ เราก็ต้องพบกับความเสี่ยง ซึ่งก็จะเห็นว่าตำรวจก็ใช้มาตรการทางกฎหมายข่มขู่ผู้ที่ออกมาชุมนุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งผู้ปกครองไม่เคยจดจำบทเรียนในประวัติศาสตร์ว่าเมื่อประชาชนลุกขึ้นสู้การเอากฎหมายมาใช้กับ ปชช. ก็ไม่เคยสำเร็จ

ทุกการชุมนุมของประชาชนที่ออกมาขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็ตาม ผมอยากบอกว่าใครถนัดตรงไหนก็ไปร่วมตรงนั้น เราต้องช่วยเหลือเกลื้อหนุนซึ่งกันและกัน เราไม่มีความจำเป็นต้องมาแข่งกัน ดังนั้นภาคประชาชนต้องใจใหญ่ยิ่งกว่าแม่น้ำใจใหญ่ยิ่งกว่ามหาสมุทร การสู้กับอำนาจรัฐฯ ภาคประชาชนต้องรู้เท่าทันต้องร่วมกันวางยุทธวิธีเพื่อเป้าหมายในการสร้างการเปลี่ยนแปลง
ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 เรื่องจำนวนคนที่มาชุมนุมไม่ใช่คำตอบ แต่สิ่งสำคัญที่จะล้มรัฐบาลได้คือเหตุผลและความชอบธรรม เราไม่ได้มาสู้เพื่อใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นเรื่องของความสำนึกเพื่อชาติบ้านเมือง เราต้องใช้หลักการแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างในการขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ แม้กระทั่งแนวคิดปรับทุกข์ผูกมิตรปักหลักชักชวนจัดตั้งก็ยังเป็นแนวคิดที่ทันสมัยอยู่
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือประชาชนใจต้องใหญ่ ถ้าใจไม่ใหญ่โค่นประยุทธ์ไม่ได้ เพราะเครือข่ายอำนาจประยุทธ์ซึ่งอยู่มาอย่างยาวนานเราไม่ควรประมาทอำนาจประยุทธ์ วันนี้เราเดินมาถึงจุดที่ไม่ใช่เป็นเรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติและประชาชน เมื่อไม่ใช่เป็นเรื่องของตนเองไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ถ้าใจเราสุจริตมีความซื้อสัตย์ในการต่อสู้ เราก็ย่อมเดินไปสู่จุดหมายปลายทาง
“วันนี้พี่น้องสะดวกจุดไหนก็ไปร่วมชุมนุมจุดนั้น แม้ว่าเราจะมีอะไรหลายอย่างเหมือนกันและแตกต่างกัน แต่ถ้าใครไล่ประยุทธ์ใครไม่เอาประยุทธ์ถือว่าเราเป็นพี่น้องกัน เราต้องบรรลุเป้าหมาย ปัญหาทุกอย่างระหว่างทางเป็นเรื่องเล็กเราต้องมองข้ามทุกอย่าง เพราะทุกอย่างไม่ใช่คำตอบ แต่คำตอบอยู่ที่ประชาชน วันนี้เราต้องสู้ด้วยกัน ผมเชื่อว่าพลังของประชาชนทั้งแผ่นดินต้องคิดการใหญ่ต้องคิดเพื่อการเปลี่ยนแปลง” นายจตุพรกล่าว
ล่าสุดทางเพจ ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย – United People for Thailand UPTไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย – United People for Thailand UPT ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีแคมเปญ กูจะเปิดมึงจะทำไม ว่า
ร้านค้าพากันรณรงค์ ‘กูจะเปิด มึงจะทำไม’ กันทั่วแล้ว เพราะมาตรการรัฐฉ้อฉลกลโกง หลอกลวงประชาชนเพื่อรวบอำนาจผูกขาดทางทางการเมืองและเศรษฐกิจ ‘ของก็ต้องขาย รัฐบาลควายก็ต้องไล่’ ใส่หน้ากากอนามัย รวมกลุ่มกันไม่เกิน 20 คนตามมาตรการ เจอกัน 16.00 น. วันนี้ สะพานผ่านฟ้า!