ไม่ดูตัวเอง!? “ป๋าเต็ด” แซะรบ. บัตรลต.เขย่ง นับ120 วันก็ยังจะเขย่งอีก ย้อนพฤติกรรมตัวเอง ฝ่าฝืนคำสั่งจัดคอนเสิร์ต ทำปชช.เดือดร้อน เสี่ยงติดโควิด!?
จากกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ตั้งเป้าเปิดประเทศภายใน 120 วัน โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติกับคนไทยที่ฉีดวัคซีนครบโดสสามารถเดินทางเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว ยอมรับการตัดสินใจครั้งนี้มาพร้อมความเสี่ยง แต่เพื่อปากท้องของประชาชน
ล่าสุด ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส หน่วยงาน Showbiz บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จํากัด (มหาชน) ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ ระบุข้อความว่า
บัตรเลือกตั้งเขย่ง โดสวัคซีนต่อขวดก็จะเขย่ง นับ120วันก็ยังจะเขย่งอี๊กกกก
และยังโพสต์รูปภาพที่มีข้อความระบุว่า ส.ว. ทำผิดอะไร ถึงจะมาปิดสวิตซ์..? ว่า “เปลืองไฟครับ อยากถอดปลั๊กด้วยไม่ใช่แค่ปิด” ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ในช่วงวันที่ 12-13 ธันวาคม 2563 ได้มีการจัดคอนเสิร์ต Big Mountain Music Festival ที่ สนามกอล์ฟ ดิโอเชียนเขาใหญ่ อ.ปากช่อง ในช่วงที่ยังมีการระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความแออัดและผู้เข้างานไม่สวมหน้ากากอนามัย และตะโกนร้องเพลงตลอดเวลา
จนกระทั่งมีผู้ร่วมงานมาจากเชียงใหม่คนหนึ่ง มีอาการป่วยมีไข้สูงและปอดผิดปกติ ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด-19 และถูกส่ง รพ.มหาราช นครราชสีมา ทำให้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ต้องเรียกประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของจังหวัดเป็นการด่วน และมีมติออกมาว่า ให้สั่งหยุดคอนเสิร์ต “บิ๊กเมาน์เท่น 11” ในทันที ด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้จัดงานไม่ได้ทำตามมาตรการควบคุมเชื้อโควิด-19 ดีพอ ผู้เข้าชมงานจำนวนมากไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่มีการเว้นระยะห่าง แถมมีการตะโกนร้องเพลงตามศิลปินกันอย่างไม่ระมัดระวัง
แต่แทนที่ “ป๋าเต็ด” จะยอมยกเลิกการจัดงานตามคำสั่งผู้ว่าฯ กลับยื่นอุทธรณ์คำสั่ง โดยอ้างว่าได้ขายบัตรไปหมดแล้ว ซึ่งในท้ายที่สุดทางจังหวัดก็ยืนยันคำสั่งเดิมให้ปิดการแสดงคอนเสิร์ตทันที แล้วให้ผู้จัดอำนวยความสะดวกให้ผู้มาร่วมงานเดินทางกลับบ้านด้วยความเรียบร้อย แต่ทีมงานบิ๊กเมาน์เท่น 11 ก็ยังทำเป็นเอาหูทวนลม ยังคงเดินหน้าจัดงานต่อไป โดยเอาเชือกมาขึงกั้นเป็นช่องๆ ให้แฟนเพลงนั่งหน้าเวที นัยว่า นี่ได้เพิ่มมาตรการป้องกันเชื้อโควิดแล้วนะ ขณะที่บนเวที ก็ยังทำการแสดงต่อไป
ต่อมาผู้ว่าฯ ก็ได้หนังสือด่วนไปถึง พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปากช่อง ให้บังคับใช้กฎหมาย กับผู้จัดงานบิ๊กเมาน์เท่น 11 โดยเด็ดขาด ซึ่งการฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าฯ ในกรณีนี้จะมีความผิดตามมาตรา 52 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จนผู้จัดงานยอมยุติการจัดคอนเสิร์ตในเวลา 4 ทุ่ม ของวันที่ 13 ธ.ค. พร้อมขออภัยแฟนเพลงตามระเบียบ และประกาศว่า ใครมางานแล้วผิดหวังหรือไม่สบายใจ ก็ยินดีคืนเงินค่าบัตรให้ อันที่จริงเรื่องวุ่นๆ แบบนี้มันคงไม่เกิด ถ้าป๋าเต็ด ตัดสินใจยกเลิกการจัดงานแต่แรก
ซึ่งก่อนที่จะมีการจัดคอนเสิร์ต ก็มีดราม่ามาเรื่อยๆ หลังจากเชื้อโควิด-19 กลับเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้ง ผ่านชายแดนไทย-พม่า เข้ามาสู่ตอนในของประเทศ ก็มีคำถามกันว่า งานที่มีคนจำนวนมากขนาดนี้ มารวมตัวกันอยู่ในที่เดียวกันแบบนี้ ยังสมควรจัดอยู่หรือไม่ ซึ่งป๋าเต็ดก็ออกมายืนยันในครั้งนั้นว่า ไม่เลื่อน
