วันนี้ความสำเร็จของรถไฟจีน-ลาวที่ได้เห็นเป็นรูปธรรม สะท้อนภาพแนวโน้มการเชื่อมต่อระบบขนส่งทางรางระดับภูมิภาค ที่เชื่อมโยงประเทศในแถบสุวรรณภูมิให้มีความสะดวกในการเดินทางและค้าขายส่งเสริมเศรษฐกิจที่เปิดกว้างในแถบนี้ ล่าสุด ‘ทางรถไฟจีน-ลาว’ สามารถขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน ทะลุ 1 พันล้านหยวนคิดเป็นเงินไทยประมาณกว่า 5 พันล้านบาท ขณะที่‘รถไฟฟ้า’ ฝีมือจีนในเวียดนามเปิดดำเนินการสามารถขนส่งผู้โดยสาร จำนวนล้านคนใน 2 เดือน นอกจากนี้ความก้าวหน้าของเส้นทางขนส่งในประเทศมาเลเซียที่จีนเข้าไปร่วมก่อสร้างก็สามารถเชื่อมต่อมายังไทยและสิงคโปร์ได้ในอนาคต นับเป็นความก้าวหน้าของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางอย่างแท้จริง
วันที่ 19 ม.ค. 2565 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศุลกากรนครคุนหมิง เมืองเอกมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเปิดเผยว่าทางรถไฟ จีน-ลาวที่เปิดบริการเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2564 ได้ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านหยวน (ราว 5.22 พันล้านบาท) แล้ว
ศุลกากรจีนฯ รองรับรถไฟสินค้า 153 ขบวน เมื่อนับถึงวันจันทร์ที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยปริมาณการขนส่งสินค้ารวมอยู่ที่ 59,500 ตัน และมีการขนส่งสินค้ากว่า 100 ประเภท ซึ่งสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ยางพารา สินแร่เหล็ก และถ่าน ส่วนสินค้าส่งออกชั้นนำ ได้แก่ ผักสด สิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน และผลิตภัณฑ์เครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า
ทั้งนี้ ทางรถไฟจีน-ลาว ซึ่งวิ่งผ่านนครคุนหมิงด้วยนั้น เชื่อมโยง 15 เมืองของจีนกับไทย สิงคโปร์ และอีกหลายประเทศตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI)
และข่าวล่าสุดจากเวียดนาม ทางการเวียดนามและสถานทูตจีนในเวียดนาม จัดพิธีเปิดโครงการรถไฟฟ้า สายก๊าตลีง-ห่าโดง (Cat Linh-Ha Dong) ที่จีนก่อสร้างอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 ม.ค.2565 โดยถือเป็นรถไฟฟ้าสายแรกในเวียดนามที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์
เหงียน มานห์ เควียน รองประธานคณะกรรมการประชาชนฮานอย กล่าวในพิธีว่ารถไฟฟ้าสายนี้ให้บริการเชิงพาณิชย์มานานราว 2 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. ปีก่อน โดยขนส่งผู้โดยสารราว 15,000 คนต่อวัน และรองรับผู้โดยสารรวม 1 ล้านคน เมื่อนับถึงวันพฤหัสบดีที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา
เควียนระบุว่า “รถไฟฟ้าฝีมือจีนออกวิ่งบริการอย่างปลอดภัยและทำตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ อีกทั้งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในฐานะรูปแบบการขนส่งสาธารณะที่ล้ำหน้าและทันสมัยโครงการแรกในเวียดนาม”
โครงการรถไฟฟ้ายกระดับสายก๊าตลีง-ห่าโดง เป็นรถไฟฟ้าสายแรกในกรุงฮานอยของเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่ตะวันตกของฮานอย และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเมือง โดยฮานอยจะสร้างทางรถไฟเขตเมือง 10 เส้นทางภายในปี 2030 ภายใต้แผนพัฒนาเมืองฉบับปัจจุบัน ซึ่งทางการเวียดนามได้ตัดสินใจร่วมมือกับจีนลุยโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางอย่างต่อเนื่อง
สยงโป เอกอัครราชทูตจีนประจำเวียดนาม กล่าวในพิธีว่ารถไฟฟ้าสายดังกล่าวเป็นโครงการความร่วมมือเชิงสัญลักษณ์ระหว่างสองประเทศในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อร่วมกันสร้างแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI)
สยงกล่าวว่า “พิธีเปิดและการดำเนินงานทางรถไฟอย่างราบรื่นเป็นแบบอย่างของความร่วมมือที่สำคัญ เป็นประโยชน์ร่วมกัน และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง” พร้อมเสริมว่าจีนยินดีร่วมมือกับเวียดนามอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นในหลายด้านสำคัญ และส่งเสริมการพัฒนาอันรวดเร็วของเวียดนามด้วย
รายงานระบุว่าแม้จำนวนผู้โดยสารจะลดลงในช่วงไม่นานนี้ เพราะยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มสูง ทว่ากลุ่มคนที่จำเป็นต้องเดินทางเป็นประจำกลับมีมากขึ้น อาทิ เด็กนักเรียนและคนทำงานซึ่งถือบัตรโดยสารรายเดือนไปโรงเรียนและทำงาน
เดา วาน ถั่น ผู้โดยสารวัย 33 ปี จากเขตดงดาของฮานอย ซึ่งใช้บริการรถไฟฟ้าสายก๊าตลีง-ห่าโดงไปทำงานในเช้าวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) เล่าว่าการเดินทางด้วยรถไฟสายนี้เป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของตนไปแล้ว ช่วยให้เขาเดินทางได้สะดวกสบายกว่าเดิม และหวังว่าจะมีการก่อสร้างทางรถไฟเขตเมืองมากขึ้น เพื่อขยับขยายการเชื่อมต่อสู่หลายพื้นที่อื่นของฮานอย
โครงการรถไฟฟ้ายกระดับนี้มีระยะทางมากกว่า 13 กิโลเมตร และสถานีรายทาง 12 แห่ง ซึ่งครอบคลุมเขต 3 แห่งในกรุงฮานอย รถไฟแต่ละขบวนมาพร้อมความเร็วออกแบบ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และตู้โดยสาร 4 ตู้ ซึ่งขนส่งผู้โดยสารมากถึง 1,000 คน
กลุ่มผู้ลงทุนโครงการฯ เผยว่ารถไฟฟ้าสายก๊าตลีง-ห่าโดง เริ่มก่อสร้างอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม 2011 และเสร็จสิ้นการทดลองใช้งานเดือนธันวาคม 2020 โดยมีการวิ่งทดสอบหลายพันเที่ยว คิดเป็นระยะทางมากกว่า 70,000 กิโลเมตร นำไปสู่การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ช่วงปลายปี 2021
นอกจากนี้โครงการจีนที่มาเลเซียมีความคืบหน้าอย่างมาก โดยเฉพาะการก่อสร้างอุโมงค์เกนติง (Genting Tunnel) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออก (ECRL) บริเวณใกล้เมืองเบนตง รัฐปะหังของมาเลเซีย
วี กา ซีอง รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของมาเลเซีย เปิดเผยว่าโครงการขนาดใหญ่นี้ อยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยบริษัทการก่อสร้างเพื่อการสื่อสารแห่งประเทศจีน (CCCC) ทำให้มาเลเซียได้รับประโยชน์อย่างมาก จากประสบการณ์และองค์ความรู้ด้านเทคนิคของบริษัทจีน
ทั้งนี้ โครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกจะเริ่มวิ่งจากท่าเรือแคลง (Port Klang) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งขนาดใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย และข้ามคาบสมุทรไปยังรัฐกลันตันทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยคาดว่าจะช่วยยกระดับการเชื่อมต่อและนำการเติบโตอย่างสมดุลมาสู่ประเทศมากขึ้น ผ่านการเชื่อมโยงภูมิภาคบนชายฝั่งตะวันออกเข้ากับศูนย์กลางทางเศรษฐกิจบนชายฝั่งตะวันตก