หลังจากที่กลุ่มมวลชนออกมาชุมนุมเมื่อคืนวันที่ 20 มี.ค. 2564 และช่วงดึกได้เกิดเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกลุ่ม “รีเดม” เครือข่ายกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ราษฎร” หรือ ม็อบ 3 นิ้ว กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายเมื่อคืนที่ผ่านมา
ซึ่งทางด้านศูนย์เอราวัณ สรุปรายงานผู้บาดเจ็บ พื้นที่การชุมนุม ถ.ราชดำเนิน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ จำนวน 19 ราย กลับบ้านได้ จำนวน 8 ราย
พักรักษาตัวที่ รพ. จำนวน 11 ราย (ส่วนมากเป็นกรณีถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทำร้าย และถูกวัตถุต่าง ๆ ขว้างปาใส่)
ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 20 คน (ข้อมูลจากศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร)
กลับบ้านได้ จำนวน 15 ราย พักรักษาตัวที่ รพ. จำนวน 5 ราย
โรงพยาบาลกลาง 11 ราย
โรงพยาบาวชิรพยาบาล 7 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 2 ราย และประชาชน 5 ราย
โรงพยาบาลศิริราช 2 ราย
โรงพยาบาลตำรวจ 11 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 10 ราย และประชาชน 1
โรงพยาบาลเลิดสิน 1 ราย
ทั้งนี้อดีตพระพุทธอิสระ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กหลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)ระบุข้อความว่า พรายกระซิบเอาข่าวมาบอก
เหตุเกิดที่อาคาร ไทยซัมมิท ทาวเวอร์ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 เวลา 10.00-18.00 น.
มีกลุ่มสามสัส เข้าร่วมประชุมวางแผนที่จะจัดการชุมนุม ณ ทุ่งท้องสนามหลวงและวันอื่น ๆ
ซึ่งก็มีผู้เข้าร่วมประชุม 19 คน พวกกลุ่ม 3 สัส นั่งหัวโต๊ะอยู่กันครบ ทั้งยังมีผู้ช่วย ส.ส.หนุ่ม ที่เพิ่งจะสมัครเป็นเขยอินโดนีเซียไปเมื่อไม่กี่วัน
งานนี้แกนนำแต่ละกลุ่มมากันครบ มีข้าวมีน้ำเลี้ยงกันอย่างอิ่มหมีพีมัน ท้องตึงแถมเป๋าตุงกลับไปเป็นทุนดำเนินกิจกรรมกันทุกคน
พรายกระซิบบอกว่า นอกจากจะเลี้ยงดูปูเสื่อ เพื่อเคลียร์ใจ กระชับสัมพันธ์ให้เหนียวแน่นกันทุกกลุ่มแล้ว ในที่ประชุมยังมีการวางแผนการชุมนุมในวันที่ 20 ที่ท้องสนามหลวงว่า ให้ผู้ชุมนุมพยายามฝ่าด่านตำรวจให้เข้าไปใกล้พระบรมมหาราชวังให้มากที่สุด
และให้ใช้รูปสัญลักษณ์กิโยติน ที่ใช้ในยุคปฏิวัติฝรั่งเศสเป็นตัวชูโรงที่ นายปิยบุตร นำเสนอ
มีการฉายภาพวีดิทัศน์ในพันธกิจไม่เอาสถาบัน พร้อมทั้งให้แจกหนังสือเล่มสีน้ำเงินของ ทนายอานนท์ จำนวน 1,000 -10,000 เล่ม ให้แก่ผู้ชุมนุมทุกคน แล้วเปิดอ่านพร้อม ๆ กันเพื่อเรียกร้องต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
การชุมนุมครั้งนี้ให้มีการ์ด 1,000 -1,500 คน ซึ่งต้องแต่งชุดแสดงตนว่าเป็นการ์ด และส่วนหนึ่งก็ให้ปะปนไปกับผู้ชุมนุม โดยจัดเตรียมอุปกรณ์ตัดลวดตัดโซ่
และล่าสุดนายธนาธร ลงเฟซบุ๊กชักชวนกลุ่ม “ราษเก็ต” ให้ออกมาร่วมกันทำกิจกรรมร่วมกับการชุมนุม
พรายกระซิบยังแจ้งมาอีกว่า ให้ผู้ชุมนุมพยายามเล็ดรอดเข้าไปให้ถึงกำแพงพระบรมมหาราชวัง และศาลหลักเมือง เพื่อกระทำการนำเอาอาจมไปสาด ไปป้าย ทำคุณไสย ใส่สถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนนายปิยบุตร ก็ให้เดินสายไปตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ด้วยข้ออ้าง ให้ความรู้ทางวิชาการ แต่แท้จริงแล้ว คือการปลุกเร้าให้เกลียดสถาบันพระมหากษัตริย์
อย่างไรก็ตามพบว่าในวันที่มีการชุมนุม เวลา 14.33 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวระบุว่า “วันนี้! ราษเก็ตทั้งผอง มารวมตัวกัน” ขอเชิญชวน “ราษเก็ต” ทั่วทุกหมู่เหล่า มารวมตัวกันเย็นนี้ที่สนามราษฎร์ หกโมงเย็นถึงสามทุ่ม ใช้เสรีภาพและศิลปะของเราวาดลวดลายแสดงออกทางการเมืองอย่างสันติ ส่งสารของพวกเราดังๆว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” #คณะราษเก็ต #ม็อบ20มีนา
ก่อนที่ช่วงกลางดึก ระหว่างที่มีการปะทะเกิดขึ้น พบภาพว่านายธนาธร ดื่มเหล้า อยู่ที่ ร้าน Moonshine bar ถนนรามบุตรี ฯ ซอยโรงไหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่การชุมนุม ระหว่างร้านเหล้า และบริเวณหน้าถนนราชดำเนิน ใช้เวลาเพียง 5 นาที คาดว่าเจ้าตัวอาจจะมีสังเกตการณ์ม็อบ 20 มีนา และสิ่งที่อดีตพระพุทธอิสระกล่าวถึงเบื้องหลังการวางแผนที่ตึกไทยซัมมิท มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่า ธนาธรวางแผนปลุกระดมคนให้ออกมาปะทะกัน แล้วตนเองก็รอดูบรรยากาศอย่างสบายใจ โดยที่ไม่ออกมานำม็อบและไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนกับกลุ่มมวลชนแต่อย่างใด
