พิธา รีบโดดป้อง “ลูกพี่ทอน” หลัง บิ๊กตู่ สั่งดำเนินคดีกลุ่มเผยแพร่ “ข้อมูลเท็จวัคซีนโควิด”

2354

พิธา งอแง บิ๊กตู่ หัวร้อน สั่งดำเนินคดีกลุ่มแพร่ข้อมูลเท็จวัคซีนโควิด19 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ยังสุมหัวโง่กับธนาธร เรื่องวัคซีนท้องถิ่น

จากกรณีเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2564 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไลฟ์สดทางเพจคณะก้าวหน้าในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทานฯ : ใครได้-ใครเสีย?” เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่าด้วยการจัดหาและผลิตวัคซีนโควิดในประเทศไทย ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่ง, ทำไมประเทศไทยได้วัคซีนช้า, และทำไมรัฐบาลถึงจัดหาวัคซีนได้ไม่ครอบคลุมจำนวนประชากรที่เหมาะสม ซึ่งในเนื้อหาของการไลฟ์สดนั้น หลายคนก็มองว่า นายธนาธร จงใจที่จะโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะมีการพาดพิงไปถึงในหลวงรัชกาลที่ 10 ในเรื่องของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ นอกจากนี้ ก็มีแกนนำและแนวร่วมหลายคน ก็ได้มีการเคลื่อนไหว ออกมาโจมตีบริศัทสยามไบโอไซเอนซ์ ว่า ได้ประโยชน์จากการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมาทางด้าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกมากล่าวถึงกรณีนายธนาธร ออกมาไลฟ์วิจารณ์การนำเข้าวัคซีนที่มีการเชื่อมโยงกับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ทั้งนำไปโยงกับการเมืองและใช้คำว่า วัคซีนพระราชทาน ว่า ตนถือว่าเป็นการบิดเบือน ทุกเรื่อง ทุกอย่างไม่ใช่ข้อเท็จ

ดังนั้นขอให้ทุกคนระมัดระวังไว้ด้วยการเสนอข่าวพวกนี้ เรื่องอะไรบิดเบือนไม่ใช่ข้อเท็จจริงแล้วนำมาแพร่ไม่ว่าในสื่อหรือโซเชียลมีเดีย ตนจะให้ดำเนินคดีทุกเรื่อง จึงขอให้ระมัดระวังไว้ด้วย อย่าหาว่าตนเอากฎหมายไปขู่ แต่ต้องรักษาความเชื่อมั่นของรัฐบาลไปด้วย ไม่เช่นนั้นต่างคนก็ต่างเขียนอะไรกันไปแล้วไม่รับผิดชอบทั้งสิ้น กฎหมายมีทุกตัวอยู่แล้ว

ล่าสุด วันนี้ (20 มกราคม 2564) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งให้ดำเนินคดีผู้ที่ให้ข้อมูลบิดเบือนเรื่องการจัดหาวัคซีนว่า ท่ามกลางวิกฤตโควิด – 19 ที่สังคมมีความสับสน และความเครียด ขอเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ มีวุฒิภาวะความเป็นผู้นำ เพราะสังคมไม่ต้องการคนที่หัวร้อนกระฟัดกระเฟียด โดยย้ำว่า ประชาชนทุกคนไม่ว่าตนเอง หรือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มีสิทธิ์ตั้งคำถามถึงงบประมาณในการจัดหาวันซีนกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน สำคัญต่อชีวิต และเศรษฐกิจ เมื่อประชาชนตั้งคำถาม พล.อ.ประยุทธ์ ก็เพียงแค่ตอบมาเท่านั้น แต่ท่านกลับเลือกที่จะหัวร้อนไม่ตอบคำถาม

นายพิธา กล่าวอีกว่า วัคซีนมีหลายรูปแบบ ซึ่งหลักการสำคัญในการบริหารจัดการวัคซีนคือความโปร่งใส และการกระจายความเสี่ยง ขณะที่หลายประเทศกระจายความเสี่ยงโดยจัดหาวัคซีนจากหลากหลายบริษัท แต่ประเทศไทยผูกขาด กับบริษัท แอสตร้า เซนเนก้า ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ หากจัดการกับเชื้อโควิด – 19 ได้ไว จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นในช่วงแรก ซึ่งหวังว่า 3 – 4 เดือน จะจัดการได้แต่ถ้าจัดการไม่ได้จีดีพีก็จะติดลบ นอกจากนี้รัฐบาลควรนำเวลาไปจัดการ และแก้ไขปัญหาขจัดความสิ้นหวังที่กัดกินประชาชน รวมถึงหาต้นตอ การแพร่ระบาดไม่ว่า จะเป็นการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวข้ามมาจากชายแดน รวมถึงการลักลอบเปิดบ่อนพนันด้วย

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายพิธา ได้ออกมาขวางการจัดซื้อวัคซีนของท้องถิ่น โดยอ้างว่า เป็นภาระของรัฐบาลที่จะต้องจัดสรรวัคซีนมาให้ รวมถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้สนับสนุนแนวคิดของนายพิธานั้น โดยนายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือ อุ๊ กรุงสยาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านใหม่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็ได้ออกมาพูดถึงกรณีดังกล่าวว่า ให้นายพิธาและนายธนาธรไปศึกษาภาระกิจบทบาทหน้าที่ ของท้องถิ่นให้ดีก่อน สำหรับผม ทำไมควรเอาเงินสะสมของท้องถิ่นออกมาดำเนินการ ภาระกิจการดูแลประชาชนเป็นหน้าที่ปกติของท้องถิ่นที่มีการกระจายอำนาจสู่ประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน ตามเจตนารมณ์ของกฏหมายเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการชุมชนตนเอง ลดอำนาจของส่วนกลางลง

และในเรื่องวัคซีนรัฐบาลทำหน้าที่เรื่องมาตรฐานอย. และการดูแลในส่วนของกลุ่มที่ขาดแคลนและต้องดูแล กลไกของรัฐบาลผ่านหน่วยงานต่างๆ ท้องถิ่น อบต เทศบาล อบจ ก็เป็นกลไกหนึ่งของรัฐบาลตามกฏหมาย ดังนั้นการบูรณาการร่วมกันทั้งงบประมาณและบุคลากร ย่อมก่อให้เกิดผลดีและรวดเร็วที่จะช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ ทุกวันนี้กลไกท้องถิ่น มีความพร้อม มีบุคลากร รู้พื้นที่ละเอียด เข้าถึงได้ดีที่สุดกว่ากลไกหน่วยงานอื่น ในระบบราชการ หากรู้จักใช้ประโยชน์จะมีผลดีต่อทุกภาคส่วน นั่นหมายถึง ประชาชนและประเทศชาติส่วนรวม เท่าเทียม ทั่วถึงและเป็นธรรม ในขณะที่ ส.ส. นักการเมือง ยังมีความคิดว่า ทุกอย่างคือภาระของรัฐบาลกลาง คุณอย่าไปหาเสียงหรือลงเลือกตั้งนายก อบจ เทศบาล หรืออบต นั่นเพราะคุณยังไม่เข้าใจคำว่า การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ลดอำนาจส่วนกลางลง กระจายอำนาจสู่ประชาชน ท้องถิ่นเข้มแข็ง คือความสำเร็จของประชาชนที่แท้จริง