จากที่นางสาวพรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า แถลงข่าวเตรียมดำเนินคดีกับผู้ขัดขวางการหาเสียง เลือกตั้งท้องถิ่น กรณีเกี่ยวกับการเลือกตั้ง แจ้งความ – ร้อง กกต.
โดยอ้างพบผู้มีพฤติการณ์ข่มขู่ คุกคาม แสดงท่าทียั่วยุในระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง อันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่น มีความพยายามขัดขวางด้วยถ้อยคำผรุสวาทต่อตน รวมถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ไม่เว้นกระทั่งผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่นของคณะฯ 42 จังหวัด ระหว่างการหาเสียง
“ทางคณะฯ จึงตัดสินใจดำเนินการทางกฏหมาย และจะเป็นไปอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นต่อบุคคลอื่น โดยจะฟ้องร้องเฉพาะกรณีที่มีการขัดขวางเสรีภาพในการเดินทางหาเสียงอย่างรุนแรงเท่านั้น แบ่งเป็นกรณีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และกรณีการหมิ่นประมาทนายธนาธรซึ่งประเด็นนี้จะทำการร้องเรียนต่อหน่วยงานต้นสังกัดและฟ้องทางข้อกฏหมายว่าด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่นต่อ กกต. ด้วย”
ล่าสุดวันนี้(1ธ.ค.63) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า
#แถลงอย่างไรให้มัดตัวเอง คุณช่อลืมตัวไปหรือเปล่าว่าตัวเองกับแกนนำคณะก้าวหน้า คนอื่นๆอย่าง นายธนาธร และปิยบุตร ต่างก็ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่คุณช่อกลับออกมาแถลงข่าวว่า “จากเวลาที่เหลืออีก 3 สัปดาห์ จะเป็นโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ. คณะก้าวหน้าจะยังคงเดินทางไปทุกจังหวัด ไปทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยไม่กังวลและไม่ต้องระวังตัว เพราะตราบใดที่เราเป็นนักการเมืองต้องเดินเข้าหาประชาชนได้” ดังที่ปรากฏอยู่ในหน้าข่าวหลายสำนัก
การออกมาแถลงข่าวของคุณช่อในครั้งนี้ จึงถือเป็นการออกมายอมรับว่าคณะก้าวหน้า ทำกิจกรรมทางการเมืองในฐานะนักการเมืองจริง ทั้งๆที่อยู่ระหว่างการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และคณะก้าวหน้ามีกิจการคล้ายคลึงกับพรรคการเมือง โดยที่คณะก้าวหน้ามิได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง
ดังนั้นจึงมีโอกาสไม่น้อยที่คณะก้าวหน้า จะมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา ๑๑๑ พร้อมกับการที่คุณช่อออกมาสร้างหลักฐานมัดตัวเอง และเผื่อแผ่ความซวยให้กับนายธนาธร และปิยบุตร รวมถึงผู้สมัครทั้งหมดในนามของคณะก้าวหน้าอีกด้วย
ผลสุดท้ายถ้าถูกตัดสินว่ามีโทษทางกฎหมายก็อย่าโวยวายอีกนะ เพราะพวกคุณทำตัวเองทั้งนั้น ไม่มีใคร หรือ กฎหมายใดๆ ลงโทษพวกคุณได้หรอก หากพวกคุณไม่ได้กระทำผิดกฎหมายเสียเอง และการออกมาโทษผู้อื่นแบบมั่วๆ หรือ อ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง มันไม่ได้แสดงถึงความเป็นปัญญาชน
#ช่อเธอทำอะไรลงไป # พวกเราถูกตัดสิทธิ์อยู่นะ #อย่าทำตัวเหมือนพรรคสิ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐
…มาตรา ๑๑๑ ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปดําเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง หรือผู้ใดดําเนินการไม่ว่าด้วยวิธีใดให้เข้าใจว่าเป็นพรรคการเมืองโดยมิได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดห้าปี
ที่มา : เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan