ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธไม่รับผิดชอบต่อความรุนแรงในเหตุการณ์บุกรัฐสภาที่ผู้สนับสนุนของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดขึ้น อ้างคำปราศรัยของเขาก่อนเกิดเหตุเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วไม่ได้ยุยงให้เกิดความรุนแรง พร้อมย้ำไม่หวั่นถูกถอดถอนตามบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ขู่จะนำมาใช้ไล่ล่าโจ ไบเดน ขณะที่การเคลื่อนกำลังทหารนับหมื่นเข้ารักษาการในวอชิงตัน ดีซี และหน่วยข่าวกรอง FBI เตือนประชาชนไม่เข้าเมืองหลวงเพราะจะเกิดการชุมนุมใหญ่ติดอาวุธ
TRUMP: “The 25th Amendment is of zero risk to me but will come back to haunt Joe Biden and the Biden administration. As the expression goes, be careful what you wish for…Respect for law enforcement…is the foundation of the MAGA agenda. And we're a nation of law and…of order." pic.twitter.com/mNODsK0GCi
— JM Rieger (@RiegerReport) January 12, 2021
ทรัมป์กลับไปตั้งหลักที่ฐานเสียงใหญ่
cnnไม่ถ่ายทอดสดการกล่าวสุนทรพจน์ของ ทรัมป์ที่ไปปราศรัยริมกำแพงชายแดนเม็กซิโก Texas อ้างได้รับคำสั่งให้เซ็นเซอร์จากเครือข่ายความรับผิดชอบสื่อสารมวลชน แต่ก็ได้ไปเผยแพร่ยังสื่อออนไลน์อาร์ที และดอทคอมกลุ่มรักทรัมป์
ทรัมป์ฯ บอกกับผู้สื่อข่าว ที่ฐานทัพร่วมแอนดรูว์ส ว่าคำปราศรัยหาเสียงก่อนเหตุจู่โจมเมื่อวันพุธ(6ม.ค.) ซึ่งเขาเร่งเร้าพวกผู้สนับสนุนเดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภาและสู้ ได้รับการวิเคราะห์จากคนอื่นๆเชื่อว่าเหมาะสม “ถ้าคุณอ่านคำปราศรัยของผม สิ่งที่ผมพูดนั้นมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง” “คำปราศรัยของผมและคำพูดของผม ย่อหน้าสุดท้าย ประโยคสุดท้าย มันมีความเหมาะสมแล้ว” ทรัมป์บอกก่อนมุ่งหน้าไปยังเมืองอลาโม รัฐเท็กซัส เพื่อไปเยือนและเซ็นชื่อบนกำแพงตามแนวชานแดนติดกับเม็กซิโก
วันอังคาร(12ม.ค.) ถือเป็นการปรากฎตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันพุธที่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้เผยแพร่วิดีโอเมื่อวันพฤหัสบดี(7ม.ค.) ประณามเหตุรุนแรง แต่เน้นย้ำยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งและเชื่อว่ามีการโกงอย่างมโหฬาร แม้ว่าศาลจะยกคำร้องก็ตาม
สมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ เดินแผนถอดถอนทรัมป์ตั้งแต่วันจันทร์(11ม.ค.) ยกเว้นแต่เขาจะยอมลาออกหรือถูกเขี่ยพ้นตำแหน่งก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีคนเดียวในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ที่ถูกถอดถอนถึง 2 ครั้ง “การที่ทรัมป์ดูไม่สำนึกผิดเลยในวันนี้ ทำให้ชัดเจนว่าจำเป็นต้องใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ถอดถอนเขา” ดาเนียล โกลด์แมน ที่ปรึกษาเสียงข้างมาก ในกระบวนการไต่ส่วนถอดถอนครั้งแรกของสภาผู้แทนราษฏร เขียนบนทวิตเตอร์ “ควรเร่งกระบวนการถอดถอน และรัฐมนตรีควรคิดให้หนักว่าจะสนับสนุนความพยายามของทรัมป์ ล้มผลเลือกตั้ง ยุยงปลุกปั่นและก่อจลาจลที่อาคารรัฐสภาหรือไม่” เขากล่าว
ทรัมป์กล่าวต่อหน้ากำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกในเท็กซัส อันเป็นสัญลักษณ์นโยบายคนเข้าเมืองอันเข้มงวด ที่เขาผลักดันมาตลอดในช่วงเวลา 4 ปีของการดำรงตำแหน่ง เขาบอกว่า “บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ไม่ก่อความเสี่ยงอะไรกับผมเลย””แต่จะย้อนกลับมาไล่ล่าโจ ไบเดนและรัฐบาลของไบเดน”
“การถอดถอนจอมปลอม คือการหวนล่าแม่มดครั้งใหญ่ที่สุดและเลวทรามที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศของเรา และก่อควาามโกรธแค้น แตกแยกและเจ็บปวดอย่างมหาศาล รุนแรงกว่าที่คนทั้งหมดจะเข้าใจ ซึ่งอันตรายมากต่อสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เปราะบางอย่างมากเช่นนี้” ทรัมป์กล่าว
จับตา “ไมค์ เพนซ์” ซึ่งเป็นดาบสำคัญที่จะลงทัณฑ์ทรัมป์ ด้วยสิทธิและอำนาจในการใช้กม.รัฐธรรมนูญที่ 25 ปลดทรัมป์ได้ทันที และเมื่อเสนอไปยังคองเกรสย่อมได้รับการต้อนรับ ถ้าเป็นเช่นนั้น ไมค์ เพนซ์ จะอยู่ในฐานะรักษาการประธานาธิบดีสหรัฐ จนถึงวันถ่ายโอนอำนาจ ทำให้หอกทุกด้ามพุ่งเป้ามาที่เขา ทั้งฝั่งเดโมแครตและแนวร่วมเขี่ยทรัมป์ ก็จี้ให้เขาแย่งเก้าอี้มาเพื่อความชอบธรรม ในขณะที่ทรัมป์ เผยว่าตนมั่นใจเพนซ์จะไม่ทำ ยิ่งกดดันเขาให้ต้องเลือกว่า จะเป็นคู่หู่ทรยศเพื่อความชอบธรรมในสายตาคนทั้งโลกหรือไม่ อเมริกาไม่เหมือนเดิมแล้ว
ใครที่ว่า สหรัฐไม่มีวันเกิดรัฐประหาร? แล้วสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้มันเรียกว่าอะไร?