จากที่ปรากฏว่าแกนนำกลุ่มคณะราษฎร ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหา ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งแกนนำดังกล่าวเช่น เพนกวิน พริษฐ์, รุ้ง ปนัสยา, อานนท์ นำภา เป็นต้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความเห็นในกรณีดังกล่าวว่า 112 กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ แกนนำม็อบเริ่มทยอยไปรายงานตัวกับตำรวจ กำลังเดินหน้าสู่กระบวนการยุติธรรม เลยทำให้เกิดละครดราม่าหน้าโรงพักบ้าง
ความจริงก่อนถึงวันนี้ มีเสียงเตือนกันมาโดยตลอด ห้ามก็ไม่เชื่อ ว่าสถาบันไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาการเมือง อ้างแต่ประชาธิปไตย อ้างแต่เสรีภาพ ทุกสังคมทุกประเทศต้องมีกฎหมายในลักษณะห้าม ไม่ใช่อ้างเสรีภาพ แต่คุกคามให้ร้ายสถาบัน จำไว้ทุกประเทศต่างมีกฎหมายปกป้องคุ้มครองประมุขของประเทศ ไม่ใช่มีเฉพาะประเทศไทย
จำใส่สมองไว้ ที่ประเทศไทยเป็นอยู่นี้ ฝีมือนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งล้วน ๆ ที่ไม่ได้ทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ แต่รุมแทะประเทศด้วยการทุจริตคอรัปชั่น เวลาอย่างนี้ บรรดาอีแอบ บรรดาคนที่หนีคดีอยู่ต่างประเทศเงียบหมด อีบ่าง ที่ยุให้เด็กปฏิรูปสถาบัน ม. 112 เป็นกฎหมาอียปิดปาก ล้าหลังหายหัวหมด
โบราณสอนว่า ให้คิดก่อนพูด ส่วนภาษากฎหมายบอกว่า กรรม(พูดและแสดงออก)เป็นเครื่องชี้เจตนา ชะตากรรมของบรรดาแกนนำม็อบจะเป็นอย่างไร ศาลสถิตยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสิน