ในหลวง ทรงมีพระราชดำรัส น้อมรำลึกวันพ่อแห่งชาติ ขอพระบารมีคุ้มครองรักษาประเทศ-ปชช. ให้มีความผาสุก

2363

หลังจากเมื่อค่ำคืนวันที่ 5 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พุทธศักราช 2563 ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง

โดยมีพสกนิกรมาร่วมจุดเทียนน้อมน้อมรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งรอรับเสด็จในหลวง พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์เนืองแน่นตลอดสองข้างทาง

 

และโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ วันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ ความว่า


“ข้าพเจ้าและพระราชินีมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมในพิธีจุดเทียนมหามงคล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ ทั้งได้มาอยู่ในท่ามกลางประชาชนทุกหมู่เหล่าในวันนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงพระราชอุตสาหะ ปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน มาตลอด 70 ปีแห่งรัชสมัย

ดั่งเป็นที่ประจักษ์ว่าได้ทรงวางรากฐาน การพัฒนาประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ให้ดำเนินก้าวหน้าไปอย่างมั่นคง ยั่งยืน โดยการส่งเสริมพัฒนาการศึกษา การแพทย์ และการสาธารณสุข ตลอดจนการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งได้พระราชทานหลักการดำเนินชีวิต และประพฤติตนปฏิบัติงานไว้ คือ เศรษฐกิจพอเพียง ที่ยึดมั่นในทางสายกลาง กระทำการทุกอย่างให้พอเหมาะ พอดี โดยอาศัยความมีเหตุผลเป็นเครื่องพิจารณา อาศัยวิชาความรู้เป็นเครื่องมือปฏิบัติ และอาศัยคุณธรรม ความสุจริตเป็นเครื่องกำกับ ประคับประคอง

อันจะทำให้ทุกคนไม่ว่าจะมีฐานะความเป็นอยู่อย่างไร ประกอบอาชีพการงานใด ย่อมมีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง สามารถพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้น เจริญขึ้นและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของโลกได้ ประเทศไทยจึงดำรงมั่นคงอยู่ด้วยความเข้มแข็ง ให้ชาวไทยตลอดจนผู้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารได้มีชาติ บ้านเมือง เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นจุดหมายร่วมกันในอันที่จะรักษาสิ่งที่ดีงามของชาติไว้ พร้อมทั้งปฏิบัติสร้างสรรค์ความดีความเจริญเพื่อความร่มเย็นเป็นปรกติสุข

ความมั่นคงเป็นปึกแผ่นและความเจริญยั่งยืนของประเทศ ประชาชนชาวไทยจึงเคารพ เทิดทูนพระองค์ ในฐานะพ่อแห่งแผ่นดิน และถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพนั้นเป็นวันพ่อแห่งชาติ และวันชาติไทย ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้เสมอมา ขอพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จงคุ้มครองรักษาประเทศชาติและประชาชนไทย ให้มีความวัฒนาผาสุกตลอดไป”