นายกฯ ลงพื้นที่เยี่ยมชุมนุมสมุทรสงคราม สีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ซีเรียส แม้ว่าบ่าย 2 นี้ จะลุ้นตัดสินคดีพักบ้านหลวง

2200

จากกรณีที่อดีตรองอธิการบดีมธ. จับตา คำวินิจฉัยศาล รธน. ว่าจะขัดมาตรา 184 หรือไม่ สำหรับกรณีของ“บิ๊กตู่” จะเป็นปลาตายน้ำตื้น เหมือน อดีตนายกฯ”สมัคร”

โดยในวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการอ่านคำวินิจฉัย กรณีนายกฯอาศัยบ้านพักทหาร หลังเกษียณ ขัดต่อรัฐธรรมนูญทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกฯหรือไม่ ด้านศาลรัฐธรรมนูญ ออกประกาศ ห้ามบุคคลภายนอกเข้า เพื่อรักษาความปลอดภัย

ซึ่งวานนี้ (1 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เป็นเรื่องการวินิจฉัยของศาล อย่าไปคาดเดา และไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ไม่ขอวิจารณ์ พร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาล

ส่วนทางด้านรศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า บ่ายนี้ศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยว่า การที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากเกษียณอายุราชการแล้ว ยังคงพักอาศัยอยู่ในบ้านพักรับรองของทหารจนถึงปัจจุบัน เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 หรือไม่ …..หากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าว ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา จะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 186 และมาตรา 170

 

รัฐธรรมนูญมาตรา 184 อยู่ในหมวด 9 เรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เป็นมาตราที่ใช้บังคับกับ ส.ส. และ ส.ว. ใน (3)เขียนไว้ว่า “ (3)ไม่รับเงินหรือประโยชน์ใดๆจากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เป็นพิเศษ นอกเหนือไปจากที่หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจปฏิบัติต่อบุคคลอื่นๆ ในธุรกิจการงานปกติ”

มาตรา 186 ระบุว่า “ให้นำความในมาตรา 184 มาใช้บังคับต่อรัฐมนตรีด้วยโดยอนุโลม….”
ส่วนมาตรา 170 ระบุว่า “ ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวเมื่อ (1) ตาย (2) ลาออก .. (5) กระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 186 หรือ มาตรา 187”

ดังนั้นหากการกระทำของพลเอกประยุทธ์ ขัดต่อมาตรา 184 ก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นการเฉพาะตัวคำถาม จึงไม่ได้อยู่ที่ว่า สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ กระทำ เป็นสิ่งผิดจริยธรรมร้ายแรงตามที่ส.ส. ฝ่ายค้านคนหนึ่งกล่าวหาหรือไม่ เพราะการพักอาศัยอยู่ในบ้านพักของทหาร หลังจากเกษียณอายุราชการแล้ว มีให้เห็นโดยทั่วไป และสำหรับ พลเอกประยุทธ์ แม้จะเกษียณอายุราชการแล้ว แต่ยังคงทำงานให้ประเทศชาติ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ เหตุผลของพลเอกประยุทธ์ ที่ว่า ทำให้ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย จึงฟังดูสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง

คำถามที่สำคัญ จึงไม่ใช่เรื่องจริยธรรม และไม่ใช่คำถามว่า กองทัพบก อนุญาตตามระเบียบอย่างถูกต้องหรือไม่ แต่เป็นคำถามว่า การพักอาศัยในบ้านรับรองของทหาร ของ พลเอกประยุทธ์ ซึ่งเป็น นายกรัฐมนตรี เป็นการรับประโยชน์ใด ๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ เป็นพิเศษ นอกเหนือไปจากที่ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ปฏิบัติต่อบุคคลอื่น ๆ ในธุรกิจการงานปกติ ซึ่งเป็นการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

หากพลเอกประยุทธ์ เป็นเพียงทหารเกษียณ ที่กองทัพบกอนุญาตให้พักอาศัยอยู่ในบ้านรับรองของทหาร โดยที่กองทัพบกจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟให้ โดยมีระเบียบรองรับ กรณีข้างต้น จะไม่เป็นปัญหาใด ๆ เลย แต่นี่พลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี จึงเป็นเรื่องน่าคิดอย่างยิ่ง

เจตนารมณ์ของ รัฐธรรมนูญ มาตรา 184 น่าจะไม่ต้องการให้ ส.ส. ส.ว. และรัฐมนตรี ได้รับประโยชน์จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เป็นพิเศษกว่าคนอื่น เพื่อรักษาความเป็นกลางไว้นั่นเอง

กรณีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นกรณี “ปลาตายน้ำตื้น” เช่นเดียวกับ คุณสมัคร สุนทรเวช หรือไม่ จึงขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ บ่ายนี้

ส่วนความเคลื่อนไหวของ นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (2 ธ.ค.) ได้เข้ากราบสักการะพระพุทธรูป หลวงพ่อวัดบ้านแหลม จ.สมุทรสงคราม เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเมื่อเวลา 07.50 น. พลเอกประยุทธ์ ได้เดินทางไปยัง จ.สมุทรสงคราม และเข้ากราบสักการะหลวงพ่อวัดบ้านแหลม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด พร้อมนมัสการ พระสมุทรวริโสภณ รักษาการแทน เจ้าอาวาส วัดเพชรสมุทรวรวิหาร แล้วออกมาเดินพบปะพูดคุย และถ่ายรูปกับประชาชนที่เดินทางมารอต้อนรับ

ขณะที่ชาวบ้านต่างขอถ่ายภาพกับนายกรัฐมนตรี เป็นที่ระลึก ซึ่งได้มีประชาชนตะโกนให้ นายกฯ ลุงตู่สู้ ๆ ก่อนที่ นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางไปเยี่ยมชม การท่องเที่ยวชุมชน ณ วิสาหกิจชุมชน ริมคลอง โฮมสเตย์ หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านปรก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม

อย่างไรก็ตามวันนี้นายกฯมีสีหน้ายิ้มแย้ม เดินเยี่ยมชมชุมชน และพูดคุยกับชาวบ้าน นอกจากนี้ยังพายเรือในคลองเล่น พร้อมลองกวนน้ำตาลมะพร้าวด้วย ซึ่งในเวลา 14.00 น. จะมีการตัดสินคดีพักบ้านหลวง เป็นอีกประเด็นสำคัญในวันนี้ที่หลายคนจับตามอง อีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็จะทราบแล้วว่า “บิ๊กตู่” จะรอด หรือร่วง?