ดร.เสรี เทียบ คนคิดต่างกับคนคิดชั่ว ย้ำชัด คนรักชาติกับคนชังชาติ คือคนคิดดีกับคนคิดชั่ว ไม่ใช่คนคิดต่าง
จากกรณีที่จะมีการชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ของกลุ่มคณะราษฎร ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนเตรียมเดินขบวน เขียนจดหมายของทุกคน เพื่อเตรียมยื่นถึงในหลวง และยืนยันใน 3 ข้อเรียกร้อง 1 ในนั้นคือ การปฏิรูปสถาบัน จะสังเกตได้ว่า การชุมนุมทุกครั้งของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคณะราษฎร มีการจาบจ้วง ดูหมิ่นและ โจมตีสถาบันมาโดยตลอด จึงทำให้กลุ่มคนรักสถาบัน ออกมาเคลื่อนไหว แสดงพลังจงรักภักดีเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดทางด้าน ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค ถึงกรณีการคิดต่างกับคิดชั่ว โดยระบุข้อความว่า
คนชอบสีม่วง กับคนชอบสีเขียว คือคนคิดต่าง
คนชอบกรุงเทพกับคนชอบต่างจังหวัดคือคนคิดต่าง
คนชอบลุงตู่กับคนชอบทักษิณคือคนคิดต่าง
คนชอบกินอาหารไทยกับคนชอบกินอาหารฝรั่งคือคนคิดต่าง
คนชอบดูซีรี่จีนกับคนชอบดูซี่นี่เกาหลีคือคนคิดต่าง
คนรักชาติกับคนชังชาติ คือคนคิดดีกับคนคิดชั่ว ไม่ใช่คนคิดต่าง
คนจงรักภักดีกับสถาบันหลักของชาติ กับคนพูดเท็จให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์คือคนจงรักภักดีกับคนเป็นปฏิปักษ์กับสถาบัน ไม่ใช่คนคิดต่าง
คนคิดต่างไม่มีใครเขาว่า แต่คนคิดชั่วและคนเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันหลักของประเทศทั้งชาติ ศาสน์ กษัตริย์สมควรถูกประณาม และถ้าพฤติกรรมทางกายและวาจาผิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษ
ทำผิดถูกจับอย่าร้องว่าถูกรังแก
ทำผิดติดคุก เสียอิสรภาพอย่าหาว่าถูกคุกคาม
ทำผิดหลายกรรม หลายวาระ ถูกจับหลายข้อหา หลายคดี อย่ามาสร้างวาทกรรมว่ารัฐบาลใช้อำนาจเถื่อนทำนิติสงคราม ไม่ทำผิด ไม่มีใครใช้กฎหมายทำร้ายได้
ไร้ยางอาย ไร้สำนึก คิดร้าย คิดชั่ว ทำผิดแต่มองไม่เห็น เพราะยึดอัตตา เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจตนเอง ไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี มีหน้ามาอ้างคำว่า “คิดต่าง” ทั้งๆที่ “คิดชั่ว”
