หลังจากที่นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา อดีตทนายพันธมิตรฯ ผู้ยืนชูป้าย “ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ห้ามผ่าน” ขวางขบวนผู้ชุมนุมไล่นายกฯ
บริเวณแยกศรีอยุธยา-พญาไทเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศว่า ในวันที่ 26 ต.ค. 14.00 น. ทนายนิติธร ล้ำเหลือ ในนามกลุ่มประชาชนคนไทย เชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมเดินทางไปยังสถานทูตเยอรมัน เพื่อยื่นหนังสือชี้แจงสถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้ แจ้งข่าวเพื่อทราบ #รองเท้าผ้าใบกับใจถึง ๆ
ต่อมากลุ่มผู้ของทนายนิติธร ได้เดินทางมาหน้าสถานทูตเยอรมัน โดยพล.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตรวจนครบาล (รอง ผบช.น) ได้นำกำลังตำรวจไว้ดูแลรักษาความปลอดภัย จำนวน 4กองร้อย หรือประมาณ 620 นายเข้าดูแล ส่วนกรณีกลุ่มคนเสื้อเหลืองและกลุ่มราษฎร อาจมีการเผชิญหน้ากันนั้น ตำรวจซึ่งเป็นคนกลางในการรับมือและแก้ปัญหา ได้ประชาสัมพันธ์และประสานงานกับแกนนำทั้งสองฝ่าย ว่าหลีกเลี่ยงการปะทะได้จะเป็นการดีที่สุด
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามปกติจะไม่อนุญาติให้ชุมนุมบริเวณสถานที่ที่มีความละเอียดอ่อน ถ้าต้องการชุมนุมจะต้องมีการปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ทั้งเรื่องการรักษาระยะห่างจากบริเวณสถานทูต เรื่องการใช้เครืองเสียง ซึ่งทางฝั่งนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ได้แจ้งขั้นตอนการชุมนุมตามกฎหมายแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ได้ชี้แจงเงื่อนไขและข้อปฏิบัติว่าสำมารถทำะไรได้บ้างที่ไม่ผิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ หากทำผิดเงื่อนไข ก็จะแจ้งแก้ไขและให้ยุติการชุมนุมทันที ขณะที่ทางฝั่งราษฎรยังไม่มีการแจ้งการชุมนุมตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นหากมาชุมนุมจะถือว่าผิดกฏหมายทันที
ซึ่งพยายามเลี่ยงเพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม เรื่องกำหนดระยะการชุมนุม รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขการห้ามใช้เครื่องเสียงที่ชัดเจน ทั้งนี้หากผู้ชุมนุมยังทำผิดกฎหมายตำรวจก็ต้องดำเนินมาตรการตามกฎหมายจากเบาไปหาหนัก
ล่าสุดมีรายงานสถานการณ์ว่า กลุ่มของทนายนิติธรได้ถอยการชุมนุม และเดินทางกลับแล้ว ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับกลุ่มคณะราษฎร์ที่ประกาศว่าจะมาปักหลักในตอนเย็น เวลา 17.00 น.
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ยืนยันแล้วว่าทางกลุ่มคณะราษฎร์ไม่ได้มีการขอการชุมนุมตามที่กฎหมายกำหนด หากเคลื่อนมวลชนมา จะเป็นการผิดกฎหมายทันที
