“วิโรจน์” ยื่นหนังสือ ตรวจสอบสยามไบโอฯ ของในหลวง หลังเพิ่งขอเครื่องราชย์ไปหยกๆ

4410

จากกรณี ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง “พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี 2563 จำนวน 31,268 คนเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 ที่ผ่านมานั้น

ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ “ซึ่งต้องพิสูจน์” ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุเนื้อหาจากการตรวจสอบรายชื่อหลังมีการโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แล้วพบว่าการที่จะได้รับการโปรดเกล้าฯลงมานั้นทางด้านผู้ที่ได้รับจะต้องทำเรื่องขอตามระเบียบขั้นตอน

โดยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. 2536 ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่สมาชิกรัฐสภาและผู้ที่เกี่ยวข้องในวงงานรัฐสภา

ทั้งนี้จากการตรวจสอบต่อไปก็ยังพบข้อความที่น่าสนใจอย่างน่าตั้งข้อสังเกตสำหรับรายชื่อเพราะมีบรรดาส.ส.ของพรรคฝ่ายค้านอย่างก้าวไกลเป็นจำนวนหลายคนดังนี้

ส.ส. ก้าวไกลอย่างน้อย 25 คน ในฐานะ ส.ส. 22 คน คือ 1. นายขวัญเลิศ พานิชมาท 2. นายคารม พลพรกลาง 3. นายจรัส คุ้มไข่น้ำ 4. นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ 5. นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ 6. พันตำรวจตรี ชวลิต เลาหอุดมพันธ 7. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 8. นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ 9. นายณัฐวุฒิ บัวประทุม 10. นายทองแดง เบ็ญจะปัก 11.นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร 12. นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ 13. นายวาโย อัศวรุ่งเรือง 14. นายวรภพ วิริยะโรจน์ 15. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร 16. นายวุฒินันท์ บุญชู 17. นายศักดินัย นุ่มหนู 18. นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล 19. นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ 20. นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ 21. นางสาวเบญจา แสงจันทร์ 22. นางสาววรรณวิภา ไม้สน

นอกจากนี้ยังพบในฐานะประธานกรรมาธิการ 3 คน 1. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา 2. นายสุเทพ อู่อ้น 3. นางสาวศิริกัญญา ตันสกุลและยังมีอดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ อีก 7 คน ชั้น ประถมาภรณ์มงกุฎไทย คือ 1. นายชำนาญ จันทร์เรือง สำหรับ ชั้น ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย 1. นายไกลก้อง ไวทยาการ 2. นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ 3. นายนิรามาน สุไลมาน 4. นางสาวกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ 5. นางสาวจารุวรรณ ศรัณย์เกตุ 6. นางสาวเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ โฆษกพรรคก้าวไกล​ เดินทางไปยื่นหนังสือต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุข​เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับสัญญา​ข้อตกลงและเงื่อนไขผูกพันระหว่างรัฐบาลกับบริษัท แอสตราเซเนกา และบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์เกี่ยวกับการจัดหาและซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด19​ ที่สามารถทำได้ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร​ ซึ่งขั้นตอนนี้ทาง​นายอนุทิน​ ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุขได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนไปว่า​หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนสามารถทำได้ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว​ ดังนั้น นายวิโรจน์จึงได้เดินทางมายื่นขอข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเดินทางมาถึงนายวิโรจน์ได้พบกับนายอนุทิน พร้อมแจ้งวัตถุประสงค์ในการมาครั้งนี้ อีกทั้งขอให้​i รมว.สาธารณสุขเร่งรัดเรื่องดังกล่าวให้เพื่อประโยชน์กับพี่น้องประชาชน

นายวิโรจน์ กล่าวว่า​ ตนใช้สิทธิ์ความเป็นประชาชนเพื่อตรวจสอบว่าภาษีและงบประมาณแผ่นดินที่ถูกใช้ไปในการจัดซื้อวัคซีน​คุ้มค่าและโปร่งใส​จริง จึงขอข้อมูลว่า
1. สัญญาระหว่างรัฐบาลกับ บริษัท แอสตราเซเนกาที่ระบุการจัดซื้อ ​เงื่อนไขการส่งมอบ​ เงื่อนไขราคา​เงื่อนไขผูกพันต่างๆ

2. สัญญาระหว่างรัฐบาลกับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ที่ระบุเงื่อนไขการจัดซื้อ​เงื่อนไขการส่งมอบและเงื่อนไขผูกพันต่างๆ และ 3. สัญญาระหว่าง บริษัท แอสตราเซเนกา กับ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด​ ที่มีผลกระทบต่อรัฐ ​งบประมาณ​หรือประชาชน​ เช่นราคาเปรียบเทียบระหว่างราคาที่บริษัทสยามไซเอนซ์ จำกัด จะขายให้กับรัฐบาลไทย เปรียบเทียบกับราคาที่ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์​ จำกัด วางแผนขายให้กับประเทศอื่น​เป็นต้น

“รวมถึงหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก​และผลการคัดเลือก​การสนับสนุนบริษัท​ สยามไบโอไซเอนซ์​ จำกัด​ของรัฐบาล ข้อมูลเงินสนับสนุนที่รัฐบาลอุดหนุนให้กับบริษัท​ สยามไบโอไซเอนซ์​ จำกัด​ พร้อมรายละเอียดรายการสนับสนุนว่ารายการใด​เป็นจำนวนเงินเท่าใด ซึ่งเดิมทราบว่ารัฐบาลไทยสนับสนุน บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์​ จำกัด จำนวน 600 ล้านบาท​ ต่อมาเปลี่ยนเป็น 1,449 ล้านบาท​ จึงขอทราบเหตุผลและรายละเอียดการสนับสนุนเพิ่มเติม เพราะงบกลางในการจองวัคซีนจาก บริษัท แอสตราเซเนกา มีวงเงินสำหรับการบริหารจัการวัคซีนจำนวน ​2,084ล้านบาท ​อยากทราบรายละเอียดการบริหารจัดการว่ามีอะไรบ้าง” นายวิโรจน์ กล่าว