สงครามเงินตราระอุ!สหรัฐดิ้นดันดอลลาร์แข็งโป๊ก-เงินเยนหัวทิ่ม รูเบิล-หยวนแกร่งต้าน ส่อเค้าวิกฤตการเงินโลก

1713

การต่อสู้กันในสมรภูมิเศรษฐกิจของเวทีค่าเงินวันนี้ดุเดือดยิ่งนัก เงินรูเบิล สกุลเงินแห่งชาติของรัสเซียแข็งค่าขึ้นอีกเมื่อเทียบกับยูโรและดอลลาร์สหรัฐในวันจันทร์ ที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน เมื่อเทียบกับยูโร ตามข้อมูลการซื้อขายจากตลาดหลักทรัพย์มอสโกว์

การแข็งค่าของรูเบิล มีขึ้นแม้ว่าธนาคารกลางรัสเซียได้ดำเนินการผ่อนปรนมาตรการควบคุมเงินทุนไปแล้ว โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 11 เมษายน ทางธนาคารกลางรัสเซียได้ยกเลิกคำสั่งห้ามซื้อเงินตราต่างประเทศด้วยสกุลเงินรูเบิลสำหรับบุคคล ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์

จนถึงเวลา 11.35 จีเอ็มที ตรงกับเมืองไทย 18.35 น.วันที่ 19 ก.ย.2565 ค่าเงินรูเบิลพุ่งขึ้น 4.14% สู่ระดับ 81.81 รูเบิลต่อยูโร และแข็งค่าขึ้น 1.12% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซื้อขายกันอยู่ที่ 79.1 รูเบิลต่อดอลลาร์

แม็กซิม ทิโมเชนโก หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการตลาดการเงินของรัสเซีย สแตนดาร์ด แบงก์ กล่าวว่า “สืบเนื่องจากมาตรการที่ใช้โดยธนาคารกลางรัสเซีย รูเบิลแทบจะไม่ตอบสนองต่อแรงกดดันภายนอก ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เช่นเดียวกับการจ่ายภาษีของพวกผู้ส่งออกไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน สนับสนุนอัตราแลกเปลี่ยนของรูเบิลรัสเซีย”

รูเบิล ค่อยๆ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน ครั้งที่รัสเซียประกาศใช้กลไกใหม่ สำหรับการชำระค่าก๊าซธรรมชาติส่งออกของพวกเขาด้วยสกุลเงินรูเบิล

ด้านความเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่วอชิงตันดิ้นสุดฤทธิ์ในการรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจเนื่องจากเงินเฟ้อกระฉูด หนี้สินสาธารณะและหนี้ครัวเรือนสูงลิ่ว แม้จะประกาศGDP เป็นบวกก็ไม่อาจกลบภาพสภาวะราคาอาหารและพลังงานสูงต่อเนื่องได้

Fed เคลื่อนไหวถอนเงินสดออกจากระบบ และขึ้นดอกเบี้ยแก้ปัญหาเงินเฟ้อก็ดูว่าอาจไม่ทันการ ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นและระยะยาวตั้งไว้สูงเพื่อสร้างแรงจูงใจก็ได้ผล ขณะที่กูรูเศรษฐกิจของสหรัฐหลายคนโวยวายให้ระวังเศรษฐกิจถดถอยกำลังจะมา

การเคลื่อนไหวดิ้นรนของดอลลาร์สหรัฐ ผลักดันให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งโป๊กผิดปกติและส่งผลให้ค่าเงินอื่นทั่วโลกอ่อนค่าลง ที่เด่นที่สุดคือเงินเยนญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้  ทางเพจ World Maker ได้โพสต์ความคิดเห็นไว้น่าสนใจดังนี้คือ

ล่าสุดดัชนีค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเกือบทะลุระดับ 101 หน่วยแล้ว! ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเงินดอลลาร์กำลังแข็งค่าเทียบกับทุกสกุลเงินทั่วโลก

โดยเหตุผลที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในระยะสั้นนี้ เกิดจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นของผู้คนทั่วโลกต่อภาคการเงิน ทำให้เงินส่วนใหญ่ไหลเข้าดอลลาร์ ซึ่งถือเป็น Safe Haven อย่างหนึ่งในช่วงเวลาที่โลกมีความไม่แน่นอนสูง

เราจะเริ่มเห็นได้ว่าตอนนี้สกุลเงินของประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกกำลังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ มีเพียงสกุลเงินเพียงไม่กี่สกุลเท่านั้นที่ยังแข็งค่าหรือทรงตัวได้เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ยกตัวอย่างเช่นเงินรูเบิลของรัสเซีย และเงินหยวนของจีน

ในขณะเดียวกัน ล่าสุดราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงเกือบ 50 $/Oz ในค่ำคืนนี้ ! หลังจากเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องและ Bond Yield 10 ปีของสหรัฐฯ พุ่งทะลุ 2.9% ใกล้แตะ 3% ไปแล้ว ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง S&P 500, Dow Jones และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นมาโซนบวกทั้งหมด และ Bitcoin พุ่งกลับขึ้นมาเหนือ 41,000 ดอลลาร์อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงของทองคำในระยะสั้นนี้ถือเป็นเรื่องปกติของตลาดทองคำโลก เนื่องจากไม่มีสินทรัพย์ใดที่จะพุ่งขึ้นเป็นเส้นตรงตลอดได้อยู่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่าในระยะยาวทองคำยังคงเป็น Supercycle อยู่

แต่สำหรับปัจจัยที่กดดันในระยะสั้นนี้ ให้เราจับตาการแข็งค่าอย่างโดดเด่นของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ทั่วโลก ในขณะที่ราคาทองคำเทียบกับดอลลาร์หรือสกุลเงินต่าง ๆ นั้นอาจมีปรับตัวหรือพักฐานบ้าง  แต่แนวโน้มในระยะยาวยังคงดูดีอยู่ในหลายแง่มุม

ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์นั้น เกิดขึ้นเมื่อนำไปเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ เท่านั้น แต่เมื่อนำดอลลาร์มาเทียบกับราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ อย่างเช่น สินค้าโภคภัณฑ์, แร่ Rare Earth, ธัญพืช, ทองคำ, อาหาร, น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ จะพบว่าเงินดอลลาร์กำลังเสื่อมค่าลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น

ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้โลกของเรากำลังเผชิญภาวะที่สกุลเงินกำลังเสื่อมค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และในขณะเดียวกันเงินดอลลาร์ก็เสื่อมค่าลงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่มีอยู่จำกัดบนโลกนี้เช่นทองคำและโภคภัณฑ์ต่างๆ

การแข็งค่าอย่างโดดเด่นของเงินดอลลาร์นั้น มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ หรือกล่าวง่าย ๆ คือมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เป็น “วิกฤตการเงินโลก”

ซึ่งหมากทางการเมืองและการเงินที่เราได้เห็นจากมหาอำนาจโลกต่าง ๆ ในปีนี้ ก็เหมือนจะกำลังชี้นำเราอย่างชัดเจนว่าโลกกำลังอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านไปสู่อะไรบางอย่าง มันจึงน่าจับตามองอย่างยิ่ง ว่าในระยะสั้น-กลางนี้ ระบบการเงินโลกของเราจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเงินดอลลาร์จะแข็งค่าเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ไปถึงไหน ? นั่นคือคำถามที่หลายคนกำลังเฝ้ารอคำตอบ

ข้อสังเกตที่สำคัญคือ เมื่อใดที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าผิดปกติต่อเนื่อง แสดงถึงสถานการณ์การเงินของโลกไม่ปกติ และมักจะตามมาด้วยวิกฤตการเงินโลกมีบทเรียนมาแล้วในอดีต ฉะนั้นจึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่าคลื่นใหญ่ของการปะทะกันของค่าเงินในมือมหาอำนาจสองขั้ว เปโตรดอลลาร์สหรัฐ และเปรโตรูเบิล-หยวน กว่าที่จะรู้ผลแพ้ชนะ เศรษฐกิจโลกจะต้องเจอกับอะไรบ้าง โปรดอย่าได้กะพริบตา???