หลังจากที่กองทัพรัสเซียยึดเมืองหน้าด่านในภูมิภาคดอนบาสของยูเครนแล้ว 1 เมือง เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเริ่มปฏิบัติการบุกโจมตีภาคตะวันออกของยูเครน โดยทางด้านประธานาธิบดี โวโรดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เปิดเผยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 19 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมาว่า รัสเซียเริ่มปฏิบัติการเพื่อยึดภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของประเทศแล้ว โดยทหารรัสเซียหลายพันนายเปิดฉากโจมตีพื้นที่แนวหน้าในภาคตะวันออกเกือบทั้งหมด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยด้วยว่า หลังจากรัสเซียเริ่มการโจมตีรอบใหม่ไม่กี่ชั่วโมง พวกเขาก็ยึดการควบคุมเมืองเครมินนา ซึ่งมีประชาชนราว 18,000 คน ในแคว้นลูฮานสก์ไปได้ โดยผู้ว่าฯ เซอร์ฮี ไฮได ระบุว่า รัสเซียโจมตีจากทุกด้าน ทางการกำลังพยายามอพยพประชาชน และยังบอกไม่ได้ว่ามีผู้บาดเจ็บล้มตายเท่าใด
ล่าสุดประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนกล่าวสุนทรพจน์ระดับชาติครั้งล่าสุดที่สื่อสารไปถึงบรรดาผู้นำตะวันตกว่า หากยูเครนมีอาวุธทั้งหมดที่ต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งที่พันธมิตรของยูเครนมี และเป็นสิ่งที่มีความสามารถเทียบเท่าอาวุธที่รัสเซียใช้ ยูเครนก็คงจะยุติสงครามนี้ไปแล้ว เพราะกองทัพยูเครนจะมีความเหนือกว่าอย่างชัดเจนในด้านยุทธวิธีและสติปัญญา และประเทศก็คงได้อยู่ในช่วงฟื้นฟูความสงบสุข
เป็นสิ่งไม่ยุติธรรมที่ยูเครนยังต้องคอยถามถึงสิ่งที่เหล่าพันธมิตรเก็บไว้ ตอนนี้เป็นเหมือนหน้าที่ทางศีลธรรมของพันธมิตรที่จะช่วยปกป้องเสรีภาพ ช่วยชีวิตชาวยูเครนอีกหลายพันคน ซึ่งหากยูเครนได้รับสิ่งเหล่านี้มาตั้งแต่สัปดาห์แรกที่สงครามเกิดขึ้น มันจะเป็นประโยชน์ของทั้งยูเครนและเพื่ออิสรภาพในยุโรปด้วย ทั้งนี้ตนหวังว่า พันธมิตรจะได้ยินและเข้าใจว่า ทุกวันมีความสำคัญ ความล่าช้าใด ๆ ในการช่วยเหลือยูเครน จะยิ่งทำให้อีกฝ่ายมีโอกาสสังหารชาวยูเครนได้มากยิ่งขึ้น
คำกล่าวของเซเลนสกี มีความขัดแย้งกับที่สหรัฐเคยกล่าวไว้ก่อนหน้าว่ามีการจัดส่งอาวุธให้ยูเครนตลอด โดยเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานี NBC ว่า สหรัฐเร่งดำเนินการจัดหาอาวุธที่ยูเครนต้องการ มีอาวุธส่งไปยูเครนโดยตลอด เพื่อให้มั่นใจว่ายูเครนมีทุกสิ่งที่จำเป็นในการรับมือรัสเซียทั้งในสนามรบและโต๊ะเจรจา โดยอาวุธที่ยูเครนต้องการนั้น ได้มีการหารือร่วมกันกับทางเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงของยูเครนมาแล้วด้วย
