ในยุคสมัยของทุนนิยม ใครคุมเงินคนนั้นคุมโลก จริงหรือไม่ไม่รู้ แต่กระแสสงครามเศรษฐกิจโลกวันนี้ ดุเดือดไม่แพ้สงครามรบพุ่งในยูเครน เมื่อจีนและรัสเซีย ประกาศสร้างความร่วมมือระหว่างระบบการเงินแบบใหม่ เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรเศรษฐกิจของตะวันตกต่อรัสเซียและพันธมิตร และโลกต้องตื่นตะลึงเมื่อซาอุดิอาระเบียได้ประกาศคิดราคาน้ำมันเป็นเงินหยวน เท่ากับเทดอลลาร์แบบเลือกข้างชัดเจนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
วิกฤตยูเครนได้สร้างโอกาสแจ้งเกิด เงินหยวนให้ได้รับการตอบรับกว้างขวางมากขึ้นทั่วโลก ธนาคารรัสเซียหลายแห่งถูกแบนจากเครือข่ายการชำระเงินระหว่างประเทศของ ระบบ Swift เกี่ยวกับเหตุการณ์ในยูเครน เพื่อขัดขวางความพยายามในการเคลื่อนย้ายเงินของรัสเซีย ระบบการส่งข้อความที่พัฒนาโดยธนาคารกลางของรัสเซียที่เรียกว่า เอสพีเอฟเอส – System for Transfer of Financial Messages (SPFS) เปิดใช้งานการไหลของการรับส่งข้อมูลระหว่างธนาคารภายในประเทศ แต่มีข้อจำกัด ด้านเวลา ขนาด และความซับซ้อนของธุรกรรมที่สามารถดำเนินการได้
การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการชำระเงินซีไอพีเอส (CIPS) ของจีนเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มของจีนสามารถใช้ได้สำหรับการชำระเงินในสกุลเงินหยวนเท่านั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้เรากำลังจะได้เห็นระบบใหม่ที่ไม่ใช่ระบบเดิมของจีนซีไอพีเอส และของรัสเซีย เอสพีเอฟเอส แต่เป็นนวตกรรมใหม่ที่คิดค้นโดยความร่วมมือของจีนและรัสเซีย
เรื่องนี้ อนาโตลี แอคซาคอฟ(Anatoly Aksakov) หัวหน้าคณะกรรมการการเงินในสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซียกล่าวไว้ว่า “เพื่อขจัดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการรักษามูลค่าการซื้อขาย จำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างระบบส่งข้อความทางการเงินของรัสเซียและจีน”
เขากล่าวว่า“ผมรู้ว่างานดังกล่าวกำลังเกิดขึ้น” “ธนาคารกลางของเรากำลังร่วมมือกับธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (PBOC) และเชื่อว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะกระตุ้นกระบวนการที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดเร็วขึ้น”
แอคซาคอฟกล่าวว่า การค้าระหว่างรัสเซียกับจีนเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 40 ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และความสัมพันธ์นี้จะเติบโตขึ้นมากกว่าเดิม
กระทรวงการคลังของรัสเซียกล่าวว่ามอสโกจะใช้เงินหยวนจีนจาทุนสำรองเงินตราต่างประเทศหลังจากที่เงินดอลลาร์และยูโรถูกปิดกั้น ในขณะเดียวกัน ธนาคารรัสเซียบางแห่งออกบัตรโดยใช้ระบบ UnionPay ของจีน หลังจากการคว่ำบาตรบัตรที่ออกโดย Visa และ Mastercard ไม่ให้ทำงานในต่างประเทศ
กระแสข่าวที่ว่าซาอุดีอาระเบียเตรียมกำหนดราคาน้ำมันเป็นสกุลเงินหยวน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ประกาศจะซื้อขายด้วยเงินหยวนกับจีนอยู่แล้ว ยิ่งขย่มบัลลังก์ดอลลาร์สหรัฐให้ด้อยค่าลงไปอีก จากที่ถูกผูกมัดกับดอลลาร์ กลายเป็นเปโตรดอลลาร์ที่ยิ่งใหญ่ค้ำบัลลังก์สหรัฐฯตลอดมา
มาดูกันว่าสถานการณ์ของเงินหยวนที่ผงาดท้าทายดอลลาร์ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากใครบ้าง
อินเดียเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ที่มีประชากรมากได้ประกาศใช้เงินท้องถิ่นคือ รูปีแลกเปลี่ยนค้าขายกับหยวนและรูเบิล โดยไม่สนใจการขู่คว่ำบาตรของสหรัฐ และธนาคารกลางอินเดียประกาศสนใจเข้าร่วมใช้ระบบใหม่ของจีน-รัสเซียด้วย
ล่าสุดเมียนมา จะลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน โดยให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระบัญชีอย่างเป็นทางการและรับเงินบาท สำหรับธุรกรรมการค้าชายแดน และเตรียมจะใช้เงินรูปี อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ มีรายงานโดยสมาคมระบบสื่อสารโทรคมนาคมด้านการเงินระหว่างสถาบันการเงินทั่วโลกว่า เงินหยวนจีนผงาดครองอันดับ 4 ของการชำระเงินทั่วโลก ช่วงเดือนมกราคมปีนี้ สกุลเงินเหรินหมินปี้ (RMB) หรือเงินหยวน (YUAN) ของจีน ไต่ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 ของการชำระเงินทั่วโลกเมื่อคิดตามมูลค่าในเดือนธันวาคม 2564
