สมุนสหรัฐเงิบ! ผู้นำอังกฤษบินด่วน พบเจ้าชายซาอุฯ-UAE วอนผลิตน้ำมันเพิ่มให้ เจอสวนกลับหงายหลัง
จากกรณีที่มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร แห่งซาอุดิอาระเบีย และเจ้าฟ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน มกุฎราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ปฏิเสธคำขอพูดคุยผ่านโทรศัพท์กับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่ออ้อนวอน 2 ชาติมหาอำนาจน้ำมันโลก ช่วยผลิตน้ำมันเพิ่ม ต่อมากลุ่มโอเปคได้ออกมาแถลงแบบแสบสันต์ว่า “ไม่อาจเนรมิตน้ำมันให้สหรัฐตามต้องการได้ เพราะตกลงโควต้าน้ำมันกับรัสเซียไว้แล้ว”
ต่อมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหนึ่งชาติสมาชิกนาโต ได้เยือนซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และเข้าเฝ้าฯ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ที่กรุงริยาด
หลังเสร็จสิ้นการเข้าเฝ้าฯ จอห์นสันกล่าวเพียงว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ดและรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย “มีความเข้าใจ” ต่อการที่ตลาดพลังงานโลก “ขาดเสถียรภาพ” เนื่องจากวิกฤติการณ์ในยูเครน ที่ส่งให้ราคาเชื้อเพลิงทุกประเภทพุ่งทะยาน อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว รัฐบาลริยาดจะประเมินสถานการณ์ด้วยความรอบคอบ โดยเชื่อว่า โลกจะไม่เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะงักงันและภาวะเงินเฟ้อ ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับสหรัฐ ระหว่างปี 2512-2513
ก่อนการเยือนกรุงริยาด ผู้นำสหราชอาณาจักรเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) เพื่อเข้าเฝ้าฯ ชีคโมฮัมเหม็ด บิน ซาเย็ด อัล-นาห์ยาน มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี เพื่อหารือในเรื่องเดียวกัน และมีรายงานว่า “ได้รับคำตอบแบบเดียวกัน”
ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก ( โอเปก ) ซึ่งรวมถึงซาอุดีอาระเบียและยูเออี ยังคงปฏิเสธเสียงเรียกร้องของสหรัฐและพันธมิตรตะวันตก ที่ต้องการให้ประณามรัสเซียอย่างเป็นทางการ กรณีปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ขณะที่สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซียกำลังร้อนระอุขึ้น ชาติสมาชิกนาโต ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี ต่างเร่งเตรียมความพร้อมด้านการทหารเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน
สำหรับนาโต (Nato) ย่อมาจาก องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรด้านการทหารที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1949 โดยมีสมาชิกก่อตั้ง 12 ประเทศ คือ เบลเยียม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปรตุเกส สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ