เดเร็ก ชอวิน อดีตนายตำรวจผิวขาวเมืองมินนิอาโปลิส ถูกศาลพิพากษาลงโทษเป็นเวลา 22 ปีครึ่ง ในความผิดฐานฆาตกรรมโดยการใช้เข่ากดคอหนุ่มอาฟริกัน-อเมริกันผิวสี ‘จอร์จ ฟลอยด์’ จนเสียชีวิตระหว่างการจับกุมเมื่อเดือน พ.ค. ปี 2020 ครอบครัวของจอร์จ ฟลอยด์รู้สึกได้รับความยุติธรรมแต่โทษยังเบาไป
คดีนี้ถือเป็นคดีดังที่ส่งผลทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากลุกขึ้นประท้วงต่อต้านความอยุติธรรมทางสีผิว ในขบวนการเคลื่อนไหว “Black Live Matters” ปฐมบทแห่งการเผชิญหน้าระหว่างขวาจัดซ้ายจัดทั่วประเทศสหรัฐ และแม้เลือกตั้งได้ประธานาธิบดีคนใหม่ โจ ไบเดนการเหยียดผิวสียังไม่หมดไป ภาพรวมเหมือนกับว่าคนอเมริกัน-อาฟริกันจะมีบทบาทในองค์กรอำนาจรัฐ ของมลรัฐต่างๆรวมทั้งคณะรัฐบาลมากขึ้นแล้วก็ตาม ชีวิตความเป็นอยู่ การได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ยังคงเป็นปัญหาเหลื่อมล้ำ ทั้งได้ขยายความเกลียดชังสู่ชาวเอเชีย-อเมริกันอย่างเด่นชัดมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2564 คณะลูกขุนแห่งศาลสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัย ว่า ชอวิน มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน (untentional second-degree murder), ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย (third-degree murder) และฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาและกระทำไปด้วยความประมาท (second-degree manslaughter) ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นคำตัดสินครั้งประวัติศาสตร์ และยังเป็นการประณามพฤติกรรรมของตำรวจอเมริกันที่มักจะใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุต่อคนผิวสี
คีธ แอลลิสัน อัยการสูงสุดรัฐมินนิโซตา ระบุว่า บทลงโทษที่ ชอวิน ได้รับนั้นถือว่ารุนแรงที่สุดสำหรับอดีตตำรวจสหรัฐฯ ที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับประชาชนอย่างผิดกฎหมาย และที่ผ่านมาก็แทบจะไม่สามารถเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ได้เลย
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ซึ่งเคยพูดคุยกับครอบครัวของฟลอยด์หลายครั้ง แถลงที่ทำเนียบขาวว่า คำตัดสินของศาล “มีความเหมาะสม”
อย่างไรก็ตาม ร็อดนีย์ ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ของฟลอยด์ รวมถึง แบรนดอน วิลเลียมส์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของผู้ตาย มองว่าคำตัดสินนี้ยัง “เบาเกินไป” และไม่สาสมกับความผิดที่ ชอวิน ได้กระทำ
“พวกเราเหมือนถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิต เพราะเราไม่มีทางได้ จอร์จ กลับคืนมาแล้ว” วิลเลียมส์ กล่าวที่ด้านหน้าศาล
ก่อนที่คำพิพากษาจะถูกประกาศ บรรดาพี่น้องของ ฟลอยด์ ได้กล่าวต่อศาลว่าที่ผ่านมาพวกเขาได้รับความทุกข์ทรมานเพียงใด ขณะที่มารดาของ ชอวิน ยืนกรานว่าลูกชายเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนตัวอดีตนายตำรวจเองกล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของฟลอยด์
ปีเตอร์ คาฮิลล์ ผู้พิพากษาศาลแขวงเทศมณฑลเฮนนิพิน ระบุว่า การเข้าอกเข้าใจความเจ็บปวดของครอบครัวผู้ตายคือสิ่งสำคัญ แต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้ตัดสินลงโทษตามกระแสสังคม
ในคำพิพากษาความยาว 22 หน้ากระดาษ ผู้พิพากษา คาฮิลล์ ได้ให้น้ำหนักเป็นพิเศษกับข้อโต้แย้งที่ว่า ชอวิน กระทำการอย่างป่าเถื่อนและใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ศาลเห็นสมควรลงโทษสถานหนักยิ่งกว่าผู้ที่กระทำความผิดครั้งแรกโดยทั่วไป
อดีตตำรวจผิวขาวนายนี้เข้าจับกุม ฟลอยด์ เนื่องจากได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านซูเปอร์มาร์เก็ตว่าเขานำธนบัตรปลอม 20 ดอลลาร์มาซื้อบุหรี่
คลิปวิดีโอซึ่งมีผู้บันทึกเอาไว้ได้ขณะที่ ชอวิน ใช้เข่ากดที่คอของ ฟลอยด์ ซึ่งอยู่ในสภาพถูกใส่กุญแจมือนานกว่า 9 นาที เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ปี 2020 สร้างความเจ็บแค้นใจต่อผู้คนทั่วโลก และนำมาสู่การเดินขบวนประท้วงและก่อจลาจลครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ในรอบหลายสิบปี
ชอวิน ถูกส่งตัวไปขังที่เรือนจำความมั่นคงสูงในย่านโอ๊คพาร์คไฮต์ส (Oak Park Heights) ตั้งแต่ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดจริงเมื่อเดือน เม.ย. แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเขาจะถูกส่งตัวไปรับโทษจำคุก 22 ปีครึ่งที่ใด
