อ้างสิทธิเบียดเบียนคนอื่น!?! อดีตบิ๊กข่าวกรอง ซัดเดือด แกนนำม็อบไม่เกรงใจคนทั้งชาติ เตรียมหมดอนาคต!!
อย่างที่ทุกท่านทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า การชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค. จุมุ่งหมายของคนเหล่านี้ที่แท้จริง ทำไปเพื่ออะไร ไม่ใช่เพียงแค่ล้มรัฐบาล แต่เป็นความต้องการจาบจ้วงเบื้อสูง หมิ่นสถาบันเป็นเป้าหมาย
ล่าสุดในวันที่ 14 ต.ค.63 ทางด้านของ นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
อย่าลองของ
ในวันนี้วันที่คนไทยจะร่วมกันแสดงความจงรักภักดีเนื่องในวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระชนกาธิ-
เบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในหลวง ร. 9 ในวันที่คนไทยมีอารมณ์โศกเศร้า
แต่กลับมีคนอีกกลุ่ม จงใจมาชุมนุมทางการเมือง บนเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แม้ตำรวจจะขอร้องให้ผู้ชุมนุมที่มีไม่มากนักขยับขึ้นบนทางเท้า ขยับรถเครื่องเสียง กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอม อ้างแต่สิทธิในการชุมนุม ที่ไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งผิดกฏหมายอยู่แล้ว ขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจแถมใช้สีสาดใส่แถวตำรวจ ถ้าเข้าเข้าตาเข้าปากมันจะเป็นอันตราย
อย่างนี้จะถือเป็นการใช้ความรุนแรงมั้ย ดูจากภาพถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ ตำรวจไม่ได้ใช้ความรุนแรง ไม่มีอาวุธ
ต้องเข้าใจนะ ตำรวจมีหน้าที่ในการถวายอารักขาและความปลอดภัยในขบวนเสด็จขององค์พระประมุข ในอดีตที่ผ่านมา ทุกการชุมนุม มวลชนจะเปิดทาง ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และร่วมในการรับเสด็จ หรือคนกลุ่มนี้จะต่อต้านสถาบันฯ
อดีตแกนนำคนเสื้อแดง นปช.ได้ออกมาพูดเตือนสติแล้ว ในฐานะที่มีประสบการณ์ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ว่า การชุมนุมครั้งนี้ ผิดกาละเทศะ ให้เลื่อนการชุมนุมเสีย แต่ก็ไม่เชื่อ ไม่ดูตาม้าตาเรือ
จำใส่สมองไว้เลย จะทำอะไรเกรงใจคนไทยทั้งชาติบ้าง อย่าอ้างแต่สิทธิ จะทำอะไรตามใจไม่ได้ คนไทยรักสงบแต่ไม่ชอบให้ใครข่มเหง รังแก ไม่ยอมให้ใครล่วงละเมิดสถาบันอันเป็นที่รัก
แกนนำไม่เข้าใจบริบททางประวัติศาสตร์ ไม่เข้าใจอารมณ์ ความรับรู้ของคนไทย แกนนำเดินล้ำหน้าออฟไซด์ประชาชนมีแต่โดดเดี่ยว พาคนไปตาย
วันนี้แกนนำน่าจะมาไกลมากไปแล้ว จะถอยกลับคงยาก คงต้องเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หมดอนาคต