มานำเองเลยไหม!? “กุนซือเทพไท” ออกตัว อวดเป็นอดีตผู้นำนักศึกษา เตือน “ม็อบทะลุฟ้า” หยุดก้าวร้าว เลิกใช้ความรุนแรง ระวังขาดแนวร่วม!?
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 30 ก.ค.64 ทางด้านของ ม็อบทะลุฟ้า ได้เรียกร้องให้ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และได้ทำพฤติกรรมสุดป่าเถื่อน เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการปราศรัยด่าทอด้วยคำหยาบคาย หรือสาดสีใส่ป้ายพรรคการเมือง และปิดขวางการจราจร เพื่อเผาหุ่นต่างๆ
ล่าสุดทางด้านของ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว หลังจากที่ได้ดูพฤติกรรมสุดเถื่อนของ ม็อบหมู่บ้านทะลุฟ้า ที่นำโดย “ไผ่ ดาวดิน” และรับไม่ได้ โดยมีรายละเอียดว่า
ผมได้ติดตามการชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า ผ่านทางสื่อออนไลน์ ที่ถ่ายทอดสดการเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุฟ้า ที่เดินทางไปยื่นหนังสือให้แก่พรรคการเมืองต่างๆ ทั้ง พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล และเลิกสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่สามารถแสดงออกได้ ภายใต้กรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อได้ดูพฤติการณ์ของการเคลื่อนไหว ในลักษณะรุนแรง เช่น สาดสี ปาสิ่งของ เผาหุ่น ทำลายข้าวของ ซึ่งเป็นพฤฒิกรรมที่ไม่เหมาะสมกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองแบบสันติ ซึ่งจะทำให้สังคมเห็นถึงภาพการเคลื่อนไหวในลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว จะทำให้ขาดแนวร่วมหรือผู้สนับสนุนจากประชาชนผู้รักสันติได้
ในฐานะที่เคยเป็นผู้นำนักศึกษามาก่อน และได้ร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองในสมัยเยาวชนมาหลายครั้ง ก็อยากจะขอเตือนน้องๆเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่สนใจปัญหาบ้านเมือง และเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมือง นับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องพึงระมัดระวัง ท่าทีและท่วงทำนองให้มากที่สุด
ต้องไม่ชุมนุมด้วยความคึกคะนองและปราศรัยโดยใช้วาจาหยาบคาย ควรจะใช้เหตุผลโน้มน้าวจิตใจ ให้พรรคการเมืองเห็นคล้อยตามเหตุผลของการชุมนุมให้ได้ มิฉะนั้นแกนนำและผู้ชุมนุม ก็จะตกเป็นผู้ต้องหากระทำผิดกฏหมายถูกดำเนินคดีได้ และจะขาดแนวร่วม หรือมวลชนผู้สนับสนุน จนทำให้เป้าหมายของการชุมนุมไม่ประสบความสำเร็จตามที่วางไว้
ทั้งนี้ล่าสุด ทางด้านของ “นายราเมศ รัตนะเชวง” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกฎหมายพรรค ได้เข้าตรวจสอบความเสียหายที่ทำการพรรค หลังกลุ่มทะลุฟ้าบุกปาสีใส่ โดยกล่าวว่า การแสดงออกของผู้ชุมนุมมกลุ่มทะลุฟ้าที่ได้เดินทางมายังพรรคประชาธิปัตย์ ต้องบอกว่าไม่ใช่การเดินทางมาชุมนุมโดยสงบ แต่เป็นการมาทำลายทรัพย์สินของพรรคให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก การปาสีใส่ทรัพย์สินของพรรคไม่ว่าจะเป็นป้ายหน้าพรรค ฝาผนัง กระจก ทุกอย่างเกิดความเสียหาย
“นี่ไม่ใช่การแสดงเชิงสัญลักษณ์ที่อยู่ในกรอบของกฎหมาย เป็นการกระทำที่เกินกรอบของกฎหมายบ้านเมือง การมาเพื่อพูดคุย ปราศรัย สามารถทำได้ พรรคพร้อมรับฟังทุกเรื่อง แต่ไม่ใช่มากระทำการทำลายทรัพย์สินของพรรคแบบนี้ อยากถามกลุ่มผู้ชุมนุมเหมือนกันว่าวันหนึ่งถ้ามีคนมาทำลายข้าวของในบ้านคุณ คุณจะยอมหรือไม่ ดังนั้นพรรคมีความจำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดี อันเนื่องมาจากการทำลายทรัพย์สินของพรรคให้เกิดความเสียหาย บ้านเมืองมีกฎหมาย เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความศักดิ์สิทธิต่อไป” นายราเมศ กล่าว
