ปธน.ปูตินแห่งรัสเซียออกคำสั่งให้ “กำลังรบป้องปรามนิวเคลียร์” ของรัสเซียตื่นตัวขั้นสูงเมื่อวันอาทิตย์หวั่นวินาศกรรม จะพังทั้งโลก เมื่อตะวันตกถล่มนิวเคลียร์ทางเศรษฐกิจใส่รัสเซียแบบไม่ยั้ง อีกทั้งนาโตประกาศกร้าวและเคลื่อนทหารเข้าสู่ยุโรปตะวันออกล้อมรัสเซียอย่างโจ่งแจ้ง ขณะเดียวกันสื่อตะวันตกหลายฉบับแพร่เฟคนิวส์อย่างไม่มิดเม้ม ด้านปธน.เซเลนสกี้แห่งยูเครนยังห้าวในสื่อโซเชียล ส่งคลิปยุประชาชนทำระเบิดขวดสู้รถดังแต่ตัวเองเผ่นแน่บไปตั้งหลักที่ลวีฟตามการเปิดเผยของรัสเซีย คาดว่าอาจไปอยู่โปแลนด์ ที่นาโตเตรียมศึกเต็มที่เพราะเป็นช่วงฝึกซ้อมรบกับสหรัฐแบบเตรียมไว้ล่วงหน้า เผชิญหน้ากับกองกำลังรัสเซียและเบลารุสที่ก็ซ้อมรบเหมือนกัน
และแน่นอนสงครามข่าวสาร ที่สหรัฐครองโลกโซเชียลมิเดียแพร่ข่าวเฟคนิวส์ว่อน จับได้ไล่ทันก็ไม่แก้ตัว และยังคงเดินหน้าตอกย้ำว่ารัสเซียเป็นผู้รุกราน เร้าให้ทั้งโลกรุมประณาม เพื่อสร้างความชอบธรรมในการทำอะไรก็ได้ อย่างที่สหรัฐทำครั้งรุกรานอิรัก ลิเบีย ซีเรีย พร้อมกับสั่งปิดทุกช่องข่าวสาร กูเกิล เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์อย่างพร้อมเพรียงกัน
ล่าสุดทางด้านยูเครนตกลงส่งผู้แทนคุยกับรัสเซียใกล้ชายแดนเบลารุส หลังจากที่เบี้ยวไม่มาตามนัดที่เมืองโกเมล-เบลารุส ตั้งแง่ให้ไปจัดที่โปแลนด์ ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า อิสราเอลจะขอเป็นตัวกลางเจรจารัสเซีย-ยูเครนเอง
วันที่ 28 ก.พ.2565 สำนักข่าวต่างประเทศทั้งฝั่งรัสเซียและตะวันตกรายงานพร้อมเพรียงกันว่า ปธน.วลาดิมีร์ ปูติน ออกคำสั่งให้ “กำลังรบป้องปรามนิวเคลียร์” ของรัสเซีย ตื่นตัวขั้นสูงสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ระบุโลกตะวันตกดำเนินมาตรการที่ “ก้าวร้าวอย่างไม่เป็นมิตร” ทั้งเศรษฐกิจไฮบริดวอร์และการทหาร สหรัฐประณามทันที ยอมรับไม่ได้ แต่สหรัฐและนาโตส่งกองกำลังทหารและขีปนาวุธล้อมรัสเซียที่ยุโรปตะวันออกเรียบร้อย พร้อมตั้งกำลังรบที่โปแลนด์ในนามการซ้อมรบร่วมมาตั้งแต่ก่อนวันรัสเซียบุกยูเครน
ในด้านสงครามข่าวสาร วันนี้ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ แฉข้อมูลปลอมในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับปฏิบัติการพิเศษของรัสเซียในยูเครน
วาซิลี เนเบนเซีย ผู้แทนถาวรของรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวถึงการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จและ “ข่าวปลอม” เกี่ยวกับการปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียในยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ รวมถึงการอ้างว่ามี “การทิ้งระเบิด” ต่อสิ่งอำนวยความสะดวกพลเรือน เขากล่าวว่า”ในโซเชียลมีเดีย เราสามารถเห็นข่าวปลอมที่จะทำให้ปฏิบัติการพิเศษของรัสเซียเป็นมลทิน โดยรวมแล้ว มี 1.2 ล้านข่าวเท็จในสื่อสังคมออนไลน์ของยูเครน”
เนเบนเซียกล่าวว่า กองทัพยูเครนได้วางปืนใหญ่ในพื้นที่ที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นเทคนิคที่ได้มาจากกองทัพสหรัฐและซีไอเอ พื่อจุดชนวนการยิงกลับใส่ผู้บริสุทธิ์“ วิธีการเหล่านี้ถูกใช้มาโดยตลอด โดยผู้ก่อการร้ายภายใต้การดูแลของซีไอเอ ทั้งในสมรภูมิตะวันออกกลางและประเทศอื่น ๆ”
ยิ่งไปกว่านั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่ากองกำลังยูเครนใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ฟอสฟอรัสนอกเมืองเคียฟ อาวุธประเภทนี้ไม่ได้รับอนุญาตจากอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยอาวุธบางประเภทว่าไร้มนุษยธรรม ทำเอาที่ประชุมอ้าปากค้าง ฝ่ายสหรัฐ-ตะวันตกค้านกันระงม แต่ไม่อาจปฏิเสธหลักฐานที่ทูตรัสเซียแจกให้ดูทำอึ้ง และแน่นอนไม่ปรากฎข่าวสารนี้ในสื่อตะวันตกแต่อย่างใด
มาดูความเคลื่อนไหวของปธน.ยูเครนเมื่อวันเสาร์ที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา วยาเชสลาฟ โวโลดิน(Vyacheslav Volodin)โฆษกสภาดูมาของรัสเซีย กล่าวว่า ปธน.โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ยูเครนได้ออกจากเคียฟไปยังเมืองลวิฟ แต่ในข้อเท็จจริงไม่มีการยืนยันว่า เขาหลบซ่อนอยู่ที่ไหน ในขณะที่ยังโพสต์โซเชียลมีเดีย ส่งคลิปปลุกระดมคนยูเครนในประเทศทำระเบิดขวด ไว้สู้กับกองทหารรัสเซีย เชิญชวนนานาชาติเข้ามาร่วมสู้ศึก พร้อมกับสื่อตะวันตกเชิดชูว่าเซเลนสกี้ไม่ยอมลี้ภัยตามที่สหรัฐขอ ยังยืนหยัดอยู่กับประชาชน แต่ไม่ปรากฎชัดว่าอยู่ที่ไหน ทั้งที่ทหารรัสเซียเดินอยู่เต็มถนนในยูเครน ส่วนประชาชนลี้ภัยข้ามแดนไปแล้วกว่า 100,000 คน สื่อบางสำนักรายงานว่า 350,000 คน
รัสเซียมีคลังอาวุธนิวเคลียร์มากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากสหรัฐ และขีปนาวุธอีกจำนวนมหาศาล ที่ถือเป็นแกนหลักของกำลังรบป้องปรามของรัสเซีย
ทหารรัสเซียยังคงรุกคืบหลายเมืองของยูเครน รวมถึงกรุงเคียฟ เมื่อวันอาทิตย์มีรายงานการปะทะรุนแรงในเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน แต่กองทัพยูเครนประกาศว่า ยังควบคุมเมืองนี้ไว้ได้ หากรัสเซียใช้อาวุธหนักที่มีอยู่จริง ยูเครนน่าจะแหลกเหมือนผลงานที่สหัฐทำไว้ในซีเรียจนถึงทุกวันนี้
อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย(Igor Konashenkov) เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า เครื่องบินรบ ระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนโดนควบคุมแล้ว ทั้งโดรนโจมตีบารักตา ทีบี2(Bayraktar TB-2) ของยูเครนที่มาจากตุรกี 3 ลำถูกยิงที่ชานเมืองเชอร์นิกอฟ (Chernigov) และศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศ S-300 นั้นใช้งานไม่ได้ในพื้นที่ของเมืองคาร์มานอฟ (Kramatorsk) ระหว่างปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน ระบบป้องกันภัยทางอากาศอื่นๆ อีก 6 ระบบ รวมถึงระบบขีปนาวุธ บัคเอ็ม1(Buk M1) และโอเอสเอ( Osa) รวมถึงสถานีเรดาร์ 56 แห่ง ก็ถูกทำลายเช่นกันระหว่างปฏิบัติการในวันอาทิตย์
ล่าสุดกรณีเฟคนิวส์น่าไม่อาย กรณีรมว.กลาโหมยูเครนโพสต์ว่ายูเครนสอยเครื่องบินรบรัสเซียร่วง 6 ลำและลงภาพเครื่องบินถูกยิงตก ปรากฏว่าโป๊ะแตกเมื่อบริษัทเกมชื่อดังร้อนตัวแจงขอโทษต่อสนข.รอยเตอร์ ว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพในเกมที่บริษัทขายอยู่และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเผยแพร่แต่อย่างใด ทำให้รอยเตอร์ออกมาขอโทษที่แพร่ภาพเฟคนิวส์โดยไม่เจตนา เพราะเชื่อถือในโพสต์ของรมว.กลาโหมยูเครน เมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงขนาดใช้ภาพปลอมมาหลอกประชาชน ย่อมสะท้อนสถานการณ์ที่เป็นจริงในยูเครนว่า เคียฟไม่น่าจะยืนหยัดได้จริงตามท่าทีห้าวของผู้นำ เพียงแต่กำลังยินดีที่สหรัฐและยุโรปสัญญาทุ่มเงินและอาวุธให้ไม่อั้น แต่น่าสงสัยเงินอาจส่งได้ แต่อาวุธและกำลังทหารนานาชาติจะเข้าทางไหนได้ เมื่อรัสเซียปิดล้อมทั้งทางบก ทางทะเลและทางอากาศ หากจะมาก็น่าจะมาทางตุรกีเพราะปิดท่าเรือห้ามรัสเซียเข้าออก
เช้าวันนี้เองยูเอสนิวส์รายงานว่า ผู้ว่าการเคียฟโอด รัสเซียล้อมเราหมดแล้ว??