วันเสาร์ที่ 9 ต.ค.2563 ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดการเดินสายหาเสียงกับกลุ่มผู้สนับสนุนเขาจากหน้าระเบียงของทำเนียบขาว โดยคาดว่ากลุ่มผู้สนับสนุนที่เข้าร่วมฟังการหาเสียงของปธน.ทรัมป์อาจจะมีจำนวนหลายร้อยคน และคาดว่าทุกคนจะสวมหน้ากากอนามัย ขณะที่โจ ไบเดนคู่แข่งขันและอดีตผู้อำนวยการซีไอเอออกมาประณามอย่างพร้อมเพรียงกัน ถึงความเห็นแก่ตัว ประมาทและไม่สนใจผลกระทบต่อผู้อื่น
หลังจากเสร็จสิ้นการหาเสียงในวันเสาร์ ปธน.ทรัมป์ก็จะเดินทางไปยังรัฐฟลอริดาในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งรัฐฟลอริดาเป็นรัฐที่สำคัญกับความหวังของปธน.ทรัมป์ที่จะได้คว้าชัยชนะสมัยที่ 2 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.ศกนี้
ปธน.ทรัมป์จะหาเสียงที่สนามบินในเมืองแซนฟอร์ด รัฐฟลอริดา โดยคณะหาเสียงของเขาไม่ได้เปิดเผยว่า การปราศรัยจะจัดขึ้นในโรงเก็บเครื่องบินหรือจัดขึ้นภายนอก แต่ระบุว่า ผู้เข้าร่วมฟังการหาเสียงจะได้รับการตรวจสอบอุณหภูมิ, ต้องใส่หน้ากากอนามัย และทำความสะอาดมือก่อนเข้าร่วมงาน
มีแต่คนก่นด่าทรัมป์ยังไม่สำนึก
“พฤติกรรมส่วนตัวที่ประมาทของโดนัลด์ ทรัมป์นับตั้งแต่ติดเชื้อโควิดซึ่งทำให้เกิดความสั่นคลอนต่อรัฐบาลของเรานั้น เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ เขาไม่ได้ใช้มาตรการป้องกันที่จำเป็นเพื่อปกป้องตัวเองหรือคนอื่นๆ และยิ่งโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีนานเท่าใด เขาก็จะยิ่งประมาทมากขึ้นเท่านั้น” ไบเดนกล่าวปราศรัยโดยสวมหน้ากากอนามัยและแว่นกันแดดอยู่ตลอดเวลา
อีกด้านหนึ่งสำนักข่าว MSNBC สัมภาษณ์จอห์น เบรนนัน อดีตผู้อำนวยการซีไอเอ เกี่ยวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ดังนี้คือ:
“คุณมีความเห็นอย่างไรในพฤติกรรมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในประเด็นต่างๆเปรียบเทียบกับอดีตผู้นำสหรัฐ และผู้นำประเทศต่างๆที่คุณได้เคยติดต่อสัมพันธ์ เช่น
1.พฤติกรรมการกดดันฝ่ายยุติธรรมให้ทำลายฝ่ายตรงข้ามเช่น ให้จับโอบามาและโจ ไบเดนเข้าคุก
2.กรณีสุขภาพของประธานาธิบดี ที่แพทย์ประจำตัวของปธน.ทรัมป์ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดการตรวจซ้ำ และยังอนุญาตให้ทรัมป์ไปหาเสียงทั้งที่อยู่ในระยะแพร่เชื้อ และเจ้าตัวโอ้อวดว่า ตัวเขา มีความพิเศษทางสุขภาพร่างกาย
3.การบอกว่าต้องการให้เกิดการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติเมื่อเลือกตั้งสำเร็จ แต่กลับแสดงท่าทีไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งทางไปรษณีย์
อดีตผู้อำนายการซีไอเอกล่าวว่า “โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นตัวอย่างของคนไร้หลักการ ไร้จรรยาบรรณและบ้าอำนาจ นอกจากนี้ยังหมกมุ่น หวาดระแวง ซึ่งก็เป็นบุคคลิกของผู้นำบางคนเช่นกัน ผมได้สังเกตุและติดตามมาหลายปีแล้ว”
โดนัลด์ ทรัมป์ มักแสดงตัวเด่น และแสดงว่ามีคนนิยมชมชอบ ไม่ว่าต่อหน้าสื่อ ต่อหน้าศาล หรือที่ไหนๆที่เขาปรากฏตัว เหล่านี้คือบุคคลิกของคนที่เข้าสู่อำนาจแล้วติดใจ และพยายามเข้ามาสู่อำนาจนั้นอีกในทุกวิถีทาง และเท่าที่เห็นทรัมป์คือคนที่กระหายอำนาจ ที่สนใจแต่ตนเอง สมบัติและเงินทองมากกว่าจะสนใจประชาชนคนอเมริกันอย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า
“ทำไมโดนัลด์ ทรัมป์จึงพยายามไม่ให้เผยแพร่รายละเอียดการสอบสวนเรื่องรัสเซีย” “มีอะไรที่เราควรรู่แล้วไม่รู้บ้าง?ระหว่างทรัมป์ กับ ปูติน”
เบรนนันตอบว่า
“ผมคิดว่ามีมากนะ โชคไม่ดีที่บอบ มูลเลอร์ ผู้สอบสวนเกี่ยวกับเส้นทางการเงินระหว่างทรัมป์และรัสเซียหมดหน้าที่ลง และที่เรารู้จากสื่อว่าโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวข้องกับเรื่องดอกเบี้ยอะไรสักอย่าง และผมคิดว่าวลาดิเมียร์ ปูตินน่าจะชอบให้ทรัมป์กลับเข้ามารับตำแหน่ง เพราะทำให้เกิดความโกลาหล ความขัดแย้ง และความอ่อนแอต่อสหรัฐและเราก็รู้ถึงความสัมพันธ์เหล่านั้น”
ในตอนท้ายผู้สัมภาษณ์สรุปความเห็นของอดีตผู้อำนวยการซีไอเอว่า ช่างสอดคล้องกับบทความของวอชิงตันโพส เกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาท่ามกลางวิกฤติรอบด้านและปราศจากการนำของประธานาธิบดีในทุกมิติ
บทความของวอชิงตันโพสต์เปิดเผยความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่่นคงสหรัฐกล่าวถึง ความโกลาหลและความอ่อนแอของสหรัฐ ท่ามกลางการต่อสู้กับปัญหาเศรษฐกิจ การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และการประท้วงที่รุนแรงยังไม่จบทั่วประเทศ และปราศจากการนำของประธานาธิบดีโดยสิ้นเชิง