จากการชุมนุมหลายครั้งของกลุ่มทะลุฟ้า ที่หลายคนก็ถูกจับกุมดำเนินคดี ส่งตัวเข้าเรือนจำบางคนได้ประกันตัวออกมา ขณะหลายคนก็ยังถูกจองจำ และที่สำคัญควรเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่นๆ ทั้งบางคนพบว่ามีปัญหาครอบครัว พ่อแม่แยกทาง หรือไม่ก็เสียชีวิต???
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความบันทึกเยี่ยม ‘อาทิตย์ ทะลุฟ้า’ โดยระบุหัวข้อไว้ว่า “ยังคงแบ่งปันยิ้มให้ทุกคนในทุกวัน แม้ตัวฉันใกล้จะถูกลืม” นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาบางช่วงที่น่าสนใจและกลุ่มผู้ชุมนุม แนวร่วมควรพิจารณาไตร่ตรองหากกระทำความผิดแล้วถูกจับติดคุกว่า
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ทนายความเดินทางไปเยี่ยม ทวี เที่ยงวิเศษ หรือ # อาทิตย์ทะลุฟ้า อีกครั้ง หลังหายป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 และต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์นานร่วมเดือน
นี่เป็นอีกครั้งที่ทนายต้องเข้าเยี่ยมอาทิตย์ด้วยการพูดคุยผ่านโทรศัพท์ โดยไม่ได้เจอกับอาทิตย์แม้แต่ภาพเคลื่อนไหวผ่านจอทีวีเช่นทุกครั้ง เพราะเขาเพิ่งถูกย้ายตัวจากแดน 3 มายังแดน 5 จึงต้องถูกกักกันตัวไว้ตามมาตรการป้องกันโควิดของเรือนจำ
‘อายุ 35 แล้ว ทำไมถึงมาเคลื่อนไหวกับขบวนการนักศึกษา-กลุ่มทะลุฟ้าได้’ ทนายถามด้วยความสงสัย เพราะด้วยอายุที่ต่างจากสมาชิกกลุ่มทะลุฟ้าคนอื่นๆ อยู่หลายปี
อาทิตย์เล่าว่า เดิมทีตนเองเป็นคนจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อก่อนเคยทำงานเป็นช่างเชื่อมที่โรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรีต่อมาเมื่อตกงานจึงเดินทางเข้ากรุงเทพ ก่อนได้ร่วมทำกิจกรรมเดินจากจังหวัดนครราชสีมาสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกับกลุ่มทะลุฟ้า เป็นระยะทางกว่า 247.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินกว่า 15 วัน เพื่อเรียกร้องให้ประยุทธ์ลาออก และปักหลักนอนชุมนุมข้างทำเนียบรัฐบาลเป็นเวลาอีกกว่า 16 วัน ต่อมาเขากับคนอื่นๆ ถูกจับกุมและสลายการชุมนุมโดยเจ้าหน้าที่รัฐในเช้าวันที่ 28 มีนาคม อาทิตย์ยังคงยืนหยัดอยู่ร่วมกับกลุ่มทะลุฟ้าจนถึงทุกวันนี้
การเข้าเยี่ยมครั้งนี้ดูเหมือนว่าบทสนทนาจะไม่มีหัวข้ออะไรให้ถามตอบกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อพักหลังนี้แทบไม่มีข้อความหรือจดหมายจากคนอื่นๆ ฝากไปถึงอาทิตย์เลย จนทนายเองก็กลัวว่าอาทิตย์จะเสียกำลังใจไปเสียก่อน
เมื่อถามถึงครอบครัวของเขา อาทิตย์สูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปหลายปีแล้ว ยังคงมีเพียงญาติคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ไกลถึงอุบลฯ ซึ่งอาทิตย์ก็ไม่อยากติดต่อไปเพื่อสร้างความลำบากใจให้พวกเขาสักเท่าไหร่ แม้ทนายจะคะยั้นคะยอถามทุกครั้งที่เจอกันด้วยความเป็นห่วงว่า ‘อยากฝากข้อความไปถึงคนที่บ้านไหม’ แต่เขาก็ปฏิเสธทุกครั้ง
เขาไม่เคยฝากส่งข้อความหาครอบครัวของตัวเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว ‘ไม่อยากรบกวนพวกเขา’ ชายหนุ่มตอบด้วยเหตุผลสั้นๆ ในทางกลับกัน อาทิตย์เป็นธุระคอยนำข้อความจากเพื่อนผู้ต้องขังคนอื่นๆ ในเรือนจำที่ต้องการส่งถึงญาติ ฝากทนายไปบอกครอบครัวพวกเขาอยู่เสมอๆ แม้ไม่ใช่ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง
คนแล้วคนเล่า ข้อความแล้วข้อความเล่าที่ทนายต้องสวมบทเป็น ‘ผู้ส่งสารเฉพาะกิจ’ โดยมีอาทิตย์เป็นตัวกลางรวบรวมรับฝากจากเพื่อนผู้ต้องขังหลากหลายคน ซึ่งจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยมีใครมาเยี่ยมเยียนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ทุกครั้งที่ทนายถามกับอาทิตย์ด้วยคำถามเดียวกันว่า ‘อยู่ได้ไหม’ ‘อาหารอร่อยไหม’ อาทิตย์ตอบเพียง ‘อยู่ได้สบายครับ’ และบ่อยครั้งที่เขาร้องขอ ‘ซอสถั่วเหลือง’ เพื่อเหยาะคลุกข้าวให้มีรสชาติดีมากขึ้นเท่านั้น
#หมายเหตุ: หากยังไม่ได้รับการประกันตัว สามารถส่งจดหมายเป็นกำลังใจถึง ‘อาทิตย์ ทะลุฟ้า’ ได้ โดยเขียนจ่าหน้าซองถึง ทวี เที่ยงวิเศษ แดน 5 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ