จากกรณีที่กลุ่มแกนนำได้มีการประกาศชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 โดยอ้างว่าจะเป็นการชุมนุมใหญ่ ที่มีคนเดินทางมาร่วมอย่างมากมายนั้น ล่าสุด นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุข้อความว่า ปฏิรูปสถาบัน:มันจะมากไป
นายเบื๊อกบอกว่า การชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคม ต้องมีการพูดถึงการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์บนเวที สานต่อภารกิจ 6 ตุลาคม 19 อย่าให้ประชาชนถูกโดดเดี่ยว เพื่อเปลี่ยนไปสู่ประชาธิปไตย แถมท้ายว่า อย่าปล่อยให้โอกาสหลุดลอย
การต่อสู้ของขบวนการนักศึกษา 14 ตุลาคม เป็นพลังบริสุทธิ์ ไม่ให้นักการเมืองแทรกแซง ไม่มีนักการเมืองอยู่ข้างหลัง เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แต่วันนี้กำลังถูกคนบิดเบือน
แกนนำและคนที่ร่วมในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม ยังมีชีวิตอยู่น่าจะเป็นพยาน ยืนยันได้ว่า จิตวิญญาณการต่อสู้ของคนรุ่น 14 ตุลาคม ไม่มีเรื่องสถาบัน มีแต่เรื่องประชาธิปไตย นักศึกษาและประชาชนที่หลบหนีการไล่ปราบปรามของตำรวจเข้าไปในวังสวนจิตลดา ได้รับพระเมตตาจากในหลวง ร.9 และสมเด็จพระราชินีนาถ
สถาบันฯทรงอยู่เหนือการเมือง ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้แทรกแซงการเมืองปัญหาประชาธิปไตยของไทย คือนักการเมือง ต้องปฏิรูปนักการเมือง
อยากบอกคนที่ปลุกปั่นยุยงคนอื่นออกมานำเองเลย จะได้ไม่เสียโอกาส พวกที่ยุงยงเด็กๆใช้เด็กเป็นเครื่องมือ เป็นเกราะกำบัง ถ้าไม่ออกมานำเอง อย่าพูดดีกว่า เหม็นขี้ฟัน.
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไปกล่าวในงานเสวนารำลึกครบรอบ 44 ปี 6 ตุลา จัดโดยสโมสรนิสิต คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุใจความบางช่วงตอนในเพจเฟซบุ๊ก หัวข้อ “สานต่อภารกิจ 6 ตุลา อย่าทิ้งเพื่อนเราให้โดดเดี่ยว” ระบุว่า เหตุการณ์ 6 ตุลา เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ระหว่างอำนาจที่มาจากการเลือกตั้ง และอำนาจที่มาจากจารีตประเพณี ซึ่งมาถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเราจะให้อำนาจไหนเป็นอำนาจนำในสังคม
ในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งของสายธารประวัติศาสตร์ เป็นผู้รับภารกิจการต่อสู้มาจากคนยุค 6 ตุลา มีภารกิจที่เราต้องทำร่วมกันให้สำเร็จ คือการแก้รัฐธรรมนูญ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูประบบเศรษฐกิจ ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ หากทำเช่นนั้นได้ เราจึงจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยได้สำเร็จ
“ผมยืนยันว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพูดเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ พูดด้วยความปรารถนาดี ด้วยความหวังว่าสังคมจะร่วมกันหาทางให้สถาบันกษัตริย์อยู่ร่วมกับประชาธิปไตยได้อย่างมั่นคงและสง่างาม หากปล่อยให้มีคนแค่ไม่กี่คนพูดเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ คุณจะโดดเดี่ยวพวกเขา ปล่อยให้พวกเขาเผชิญกับคดีความและการคุกคาม เมื่อเป็นเช่นนี้จะไม่มีใครออกมาสู้เพื่อพวกคุณ มาเรียกร้องแทนพวกคุณ เราประชาชนมีเพียงจำนวน เราไม่มีตุลาการ ไม่มีปืน ไม่มีรถถัง เรามีแต่ปริมาณ เราเป็นจำนวนนับ ถ้าเราทิ้งเพื่อนของเรา จะไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาสู้อีกเลย
อย่าลืมว่ากว่าเราจะเดินมาถึงวันนี้ ต้องสูญเสียชีวิต เลือดเนื้อไปเท่าไหร่ จากคนในยุค 6 ตุลา มาจนถึงคนเสื้อแดง ….คุณจะตอบพวกเขาอย่างไรหากปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป โอกาสที่เราจะได้เปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นอย่างที่เราฝันอยากให้เป็น”
ที่มา : Nantiwat Samart