ออมสินช่วยSMEท่องเที่ยวรายเล็ก!?!ปล่อยกู้รายละ 5 แสนไม่ต้องมีหลักประกัน ขณะหอการค้าชงรัฐฯช่วยกลุ่มติดเครดิตบูโร

1507

มาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีมีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาการจ้างงานในระดับฐานรากให้ดำรงอยู่ได้ ทั้งพักชำระหนี้ ออกซอฟท์โลนให้กู้เพิ่ม แต่จะทำอย่างไรเมื่อนโยบายดีแต่เอสเอ็มอียังเข้าไม่ถึง ในส่วนของแบงก์รัฐเช่น ธนาคารออมสินมีความคล่องตัว ในการตอบสนองนโยบายของรัฐฯได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดธนาคารออมสินเดินหน้าปล่อยสินเชื่อธุรกิจท่องเที่ยวรายเล็ก วงเงิน 5 แสนบาท ไม่ต้องมีหลักประกัน ดอกเบี้ย 3.99% คงที่ 5 ปี และผ่อนปรนเกณฑ์พิจารณาอนุมัติ ขณะที่หอการค้ากังวลว่า เอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิดหนัแ แต่ยังคงเข้าไม่ถึงซอฟท์โลน เสนอให้รัฐบาลผ่อนปรนเกณฑ์เข้าถึงเพิ่ม ให้โอกาสรายเล็กได้ประคองกิจการฝ่าโควิด

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งไม่เพียงแค่ธุรกิจโรงแรมหรือที่พัก แต่ยังรวมถึงกิจการอื่น ๆ ด้วยที่ดำเนินธุรกิจพึ่งพาการท่องเที่ยว เช่น ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านจำหน่ายสินค้า ธุรกิจสปาและนวดแผนไทย ธุรกิจการเดินทางและขนส่ง เป็นต้น โดยผู้ประกอบการ SMEs เหล่านี้จำนวนมากขาดกระแสเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ประคับประคองธุรกิจในช่วงวิกฤติจากการแพร่ระบาดครั้งนี้

โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ออมสินช่วยเหลือ SMEs ในภาคการท่องเที่ยว เป็นความตั้งใจของธนาคารออมสินที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง โดยการให้สินเชื่อสำหรับใช้เป็นเงินทุนดำเนินกิจการหรือเสริมสภาพคล่อง วงเงินกู้สูงสุดรายละ 500,000 บาท ให้กู้เป็นระยะเวลา 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีเท่ากับ 3.99% และปลอดชำระเงินต้นในปีแรก 

ผู้มีสิทธิ์กู้เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ใช้บุคคลเป็นหลักประกันการกู้ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์และ บสย. ค้ำประกัน 

ทั้งนี้ ธนาคารฯ ผ่อนปรนเกณฑ์การพิจารณาโดยดูรายได้ในอดีตของกิจการเป็นหลัก เนื่องจากธนาคารฯ ทราบดีว่าปัจจุบันกิจการต้องขาดรายได้เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนขอสินเชื่อโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำฯ ผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หรือติดต่อโดยตรงที่สำนักสินเชื่อธุรกิจธนาคารออมสิน 82 แห่งทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ สามารถกดลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ และค้นหาสถานที่ตั้งสำนักสินเชื่อฯ ในแต่ละจังหวัดได้ที่ www.gsb.or.th

แม้รัฐบาลและธนาคารของรัฐจะออกมาตรการที่ดีต่อเอสเอ็มอีมาอย่างต่อเนื่องแต่การขอสินเชื่อจากผู้เดือดร้อนยังน้อย ทางภาคเอกชนโดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เข้าหารือกับรองนายกฯเศรษฐกิจเพื่อเร่งแก้ปัญหาให้ทันกาล

โดยเสนอแนวทางช่วยผู้ประกอบการเร่งด่วน ส่วนรองนายกฯทีมเศรษฐกิจ เตรียมตั้งวงหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อผ่อนเกณฑ์ปล่อยกู้เอสเอ็มอี-พักทรัพย์ พักหนี้ ให้ตรงกับความต้องการของกิจการขนาดเล็กอย่างแท้จริง

นายสนั่น  อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายสุพัฒนพงษ์  พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ ดร.ทศพร  ศิริสัมพันธ์ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เลขาธิการสภาพัฒน์ ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ผู้แทนสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ว่าขณะนี้ ผู้ประกอบการจำนวนมากโดยเฉพาะรายเล็ก ประสบปัญหาสภาพคล่องเป็นอย่างมาก และบางรายต้องพึ่งแหล่งเงินกู้นอกระบบ เพราะไม่สามารถเข้าถึง Soft Loan ของภาครัฐได้ โดยเสนอให้ภาครัฐผ่อนคลายกฎระเบียบ เพื่อให้สถาบันทางการเงินมีอิสระในการใช้ดุลยพินิจมากขึ้น โดยสถาบันทางการเงินจะมีกฎเกณฑ์พื้นฐานในการให้สินเชื่อ ซึ่งจะพิจารณาจากหลายมิติ ไม่ใช่พิจารณาจากเครดิตบูโรเพียงอย่างเดียว

รวมถึงการให้ผู้ประกอบการค้าปลีกสามารถคัดกรองและให้ข้อมูลผู้ขายแก่สถาบันทางการเงิน เพื่อนำมาใช้ประเมินความเสี่ยงได้ ขณะเดียวกัน ธปท.อาจพิจารณาปลดล็อคให้ลูกหนี้ที่ติดเครดิตบูโร หรือ เอ็นพีแอล ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิดนี้ ยิ่งต้องมีการดูแลผ่อนผัน เพื่อให้สถานะฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว