ไร้วันบรรจบ! “ประยุทธ์-ธรรมนัส” คู่ขนานขัดแย้งบานปลาย เมื่อผู้กองนัสกลายเป็นปัญหารบ.?

1017

ไร้วันบรรจบ! “ประยุทธ์-ธรรมนัส” คู่ขนานขัดแย้งบานปลาย เมื่อผู้กองนัสกลายเป็นปัญหารบ.?

จากกรณีที่ได้มีการสลายการชุมนุมของกลุ่มชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น จังหวัดสงขลา ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล จนกระทั่งถูกตำรวจควบคุมฝูงชนได้เข้าสลาย จนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในขณะนี้

ต่อมา ทางด้านของ พลเอกประยทุธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงหลังการประชุมครม.ถึงกรณีสลายการชุมนุมของชาวบ้านจะนะว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำ เพราะมีข่าวว่าจะมีคนมามั่วสุมเพิ่มเติม ซึ่งต้องช่วยรัฐบาล เพราะการชุมนุมต้องห่างสถานที่ราชการ 150 เมตร มาชุมนุมตรงนี้ทุกทีแล้วก็ไม่ไป สำหรับโครงการก่อสร้างนิคิมอุตสาหกรรมจะนะอยู่ในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์อีกครั้ง

ตนได้มอบหน่วยงานไปรับฟังว่าอะไรยังไง และสิ่งใดก็ตามตนเคยบอกแล้วว่า การไปเจรจากับเขา อย่าไปรับปากเขามาทันที ถ้าหากยังไม่ได้นำเข้าการพิจารณาของครม. หรือของรัฐบาล ไม่ว่าใครก็ตาม ตนได้เตือนมาหลายครั้งแล้ว แค่รับข้อสังเกตมา แล้วให้นำมาสู่การแก้ไขปัญหา การทำงานของรัฐบาลต้องรอบคอบ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงการทำเอ็มโอยูเมื่อปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีได้ย้อนถามว่า ใครตกลง ผู้สื่อข่าวก็ได้ตอบกลับมาร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายกรัฐมนตรีได้ตอบกลับไปว่า แล้วผมตกลงหรือยัง ครม.ตกลงหรือยัง อย่างไรก็ตามตนได้มอบหมายให้ศอ.บต.และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไปดูแล และติดตามดูว่าเกิดอะไรขึ้น จะแก้ไขยังไง

พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาให้ประกันตัวผู้ที่ถูกคุมตัว ส่วนจะมีเครือข่ายภาคใต้เดินทางมานั้น ก็ขออย่ามาเลย ตนจะส่งคนไปดูแล ไปรับฟังว่าอะไรที่เป็นข้อเท็จจริงและอะไรที่ถูกบิดเบือน เรามุ่งหวังให้ภาคใต้มีเศรษฐกิจที่เติบโตมากขึ้น

ต่อมาร้อยเอกธรรมนัส และในฐานะที่เป็นผู้ไปเซ็นบันทึกข้อตกลงกับเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ขณะมาชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลเมื่อปี 2563 ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวระบุว่า หลังจากที่ผมพ้นจากการเป็นตำแหน่ง รมช. เกษตรฯ ผมไม่สามารถสานงานต่อเรื่องปัญหาของพี่น้องประชาชนในหลายๆเรื่อง รวมถึงปัญหาของพี่น้องชาวจะนะ ซึ่งคงไม่มีใครรู้และเข้าใจถึงแก่นแท้ของปัญหา ยกเว้นผู้ที่มีส่วนได้เสียกับโครงการนี้

ผมได้รับการประสานจากเพื่อนๆ ส.ส. หลายท่าน ให้เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องชาวจะนะเหมือนเดิม แต่ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ผมไม่สามารถไปก้าวล่วงกับคณะทำงานชุดใหม่ของรัฐบาลได้อีกผมยังเป็นห่วงพี่น้องชาวจะนะ และผมจะใช้ระบบสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องชาวจะนะต่อไป

นอกจากนี้ ยังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ครม.รับทราบแล้วว่า ต้องกลับไปทำตามมติครม. มันชัดเจนหมดแล้ว แล้วคณะนั้นก็หมดหน้าที่แล้ว ทำจบแล้ว

ก่อนหน้านี้ บรรยากาศภายในพรรคพลังประชารัฐ ก็เกิดความขัดแย้งกันระหว่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และร.อ.ธรรมนัส ในช่วงของศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่า มีการล็อบบี้ล้มเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ และต่อมาก็ได้มีคำสั่งปลด ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยฯ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าก่อนที่จะมีการโหวตในศึกอภิปราย ได้มีการนัดหมายกันที่มูลนิธิป่ารอยต่อ โดย ร.อ.ธรรมนัส จะกราบขอโทษพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยตัวเอง โดยมีพล.อ.ประวิตร ร่วมอยู่ด้วย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ร่วมกันครั้งแรก หลังมีกระแสข่าวลือว่า พี่น้อง 2 ป.ขัดแย้งกัน ด้วยประเด็นที่ บิ๊กป้อม ยังอุ้ม ธรรมนัส ให้อยู่ในพรรคต่อ ตั้งแต่ช่วงที่พลเอกประยุทธ์ไปลงพื้นที่ชัยภูมิ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แยกไปลงพื้นที่น้ำท่วมที่นครราชสีมา โดยครั้งนั้นบิ๊กป้อม พูดในเชิงทำนองว่า แยกกันลงพื้นที่ดีแล้ว และได้มีการเกณฑ์บรรดาส.ส. มาต้อนรับ วัดพลังบารมีของพี่น้อง 2ป. กันด้วย

ที่ผ่านมา “รอ.ธรรมนัส” เข้ามามีบทบาทในการลงพื้นที่ของบิ๊กป้อม ทั้งอาสาเกณฑ์ส.ส.มาต้อนรับ อาสาออกหน้าดูแทนพื้นที่แทน แต่มาครั้งนี้ ที่ “บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่” จับมือควงกันลงพื้นที่อุดร กลับไร้เงาร.อ.ธรรมนัส เคียงข้างบิ๊กป้อม ซึ่งที่ผ่านมาในแวดวงการเมือง ต่างรู้กันดีว่า หากมีธรรมนัส ก็ไม่มีบิ๊กตู่ แต่ครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณดี ที่พี่น้อง 2ป. แสดงออกว่ารักกันชัดเจน และบิ๊กป้อมก็เลือกที่จะไม่พาร.อ.ธรรมนัส มาลงพื้นที่ด้วย