จากที่ นรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กมีนัดพิจารณาคดีสำคัญ 2 เรื่อง ไต่สวนคัดค้านฝากขังเบนจา และสอบคำให้การคดีครอปท็อป ข้อหา 112 นั้น
ล่าสุดวันนี้ 15 พฤศจิกายน 2564 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีนัดพิจารณาคดีสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1) ไต่สวนคัดค้านการฝากขังครั้งที่ 5 คดีมาตรา 112 ของ เบนจา อะปัญ ปราศรัยหน้าบริษัทซิโน-ไทย ในม็อบ 10 สิงหา โดยศาลจะเบิกตัวเบนจามาศาลด้วย และ 2) นัดสอบคำให้การคดีใครๆก็ใส่ครอปท็อป ไปเดินสยามพารากอนมาตรา112 ของ เพนกวิน-ไมค์-รุ้ง-เบนจา-ป๊อกกี้ ซึ่งรุ้งจะต้องยื่นประกันตัวด้วย และศาลจะเบิกตัวทั้งเพนกวิน-ไมค์-เบนจา มาขึ้นศาล
ทั้งนี้ น.ส.ปนัสยา ได้เดินทางมาที่ศาล พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้คงไม่มีอะไร แต่เป็นนัดสอบคำให้การ โดยในวันนี้มี ไมค์ รุ้ง เพนกวิน เบนจา เบิกตัวมาด้วย
สำหรับการชุมนุมเมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า ตำรวจทำเกินกว่าเหตุไปมาก เพราะการชุมนุมของเราแต่ละครั้งมีแผนชัดเจน เราบอกตั้งแต่แรกว่าจะเดินตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปสนามหลวง แต่สิ่งเจ้าหน้ารัฐสกัดทุกช่องทางขนาดใช้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไม่ได้ ทั้งๆที่เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่ไม่ให้ใช้อนุสาวรีย์ฯ พอไปถึงแยกปทุมวันก็ยังมีการตอบโต้และการปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงสถานทูตเยอรมันก็ยังมีตำรวจขัดขวางให้เป็นเหตุเล็กๆน้อย จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้ น.ส.ปนัสยา ยังกล่าวอีกว่า อนาคตต่อไป คงต้องถามหาว่าการกระทำเหล่านั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำให้ประชาชนบาดเจ็บสาหัส ต้องถามกลับตำรวจว่าทำเกินกว่าเหตุ หรือ เกินสัดส่วนหรือไม่ และจะไปถามหาคำตอบนั้นจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
“ตอนนี้ขอให้ผู้บาดเจ็บปลอดภัย ส่วนเรื่องต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ก็ตรงตัวตามความหมายของการต่อต้าน และมีคำพูดบางคำของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้ประชาชนคอดได้ว่า สิ่งที่ออกมาในคำวินิจฉัยว่าประเทศเป็นระบอบกึ่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์หรือไม่ และการชุมนุมเมื่อวานนี้ ไม่ว่าจะมีการพยายามทำอะไรก็ตามหรือการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ พวกเราประชาชนไม่เอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์”
อย่างไรก็ตาม น.ส.ปนัสยา ยังกล่าวถึงความกังวลที่มีนักร้องไปร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกลุ่มผู้ชุมนุมว่า สำหรับพวกนักร้อง บางทีถ้าร้องไปแล้วไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม ก็ไม่ต้องทำ ตนไม่รู้ว่าอยากเป็นตำนานอะไรหรือเปล่าก่อนที่ชีวิตจะสิ้นไป ตนว่าตำนานแบบนี้ไม่น่าจดจำ
“ตนยืนยันว่าจะล้มล้างระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เราต้องการให้มีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขคงอยู่ โดยที่ข้อเสนอนั้นมีมาตั้งแต่ 10 สิงหาคม 2563 และเราก็พูดถึงทุกครั้ง เมื่อมีคนเข้าใจผิด เราต้องการให้มีการปรับแก้คือการปฏิรูปให้สถาบันกษัตริย์ยังคงอยู่ในสังคมอย่างสถาพร ตนไม่ได้กังวลอยู่แล้วเพราะไม่ได้มีเจตนาในเรื่องการล้มล้างการปกครอง เพราะไม่เคยใช่ มันไม่เคยใช่มาตลอด” น.ส.ปนัสยา กล่าว
ด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวด้วยว่า ในพื้นฐานคำฟ้องเป็นล้อเลียนพระมหากษัตริย์ ถ้าเป็นไปตามมาตรฐาน รุ้ง ปนัสยา จะได้ประกันตัว เพราะคดีนี้ทุกคนก็ได้ประกันตัว และส่วนวันนี้จะมีการไต่สวนเบนจาครั้งที่ 5 ไม่รู้ว่าศาลจะให้ฝากขังต่อหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ขังเบนจามาแล้วกว่า 60 วัน
ก่อนหน้านี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ม็อบ 14 พ.ย. “คุก คุก คุก” เท่านั้น เดี๋ยวเจอกัน