ผศ.อาจารย์ดัง เตือนสติ รุ้ง ฐานะแม่! ทุกวันนี้ทำเพื่อใคร? กลับตัวยังทัน รับคำสั่งมา แต่คนสั่งไม่กล้าทำ!
จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้อ่านคำวินิจฉัยคำร้องนายณัฐพร โตประยูร ขอให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของนายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ชุมนุมปราศรัย เพื่อเสนอข้อเรียกร้องเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
ก่อนอ่านคำวินิจฉัย ทางด้านนางสาวปนัสสยา กล่าวกับศาลว่า วันนี้เรามาฟังคำวินิจฉัยโดยทนายของพวกเราเคยมีการยื่นขอศาลให้ดำเนินการไต่สวน หนูไม่ใช่นักเรียกกฎหมายก็อาจจะรู้น้อย แต่ก็เข้าใจว่าการได้มาซึ่งความยุติธรรม อย่างน้อยควรจะต้องรับฟังทุกอย่างเท่าที่จะรับฟังได้ ซึ่งวันนี้ อาจารย์ ส. ศิวลักษณ์ ได้มารออยู่ พร้อมที่เข้าไต่สวนหากศาลอนุญาต แต่ถ้าศาลไม่อนุญาตและให้รับฟังคำวินิจฉัย โดยที่หนูไม่มีโอกาสแสวงหาความจริงเพิ่มเติมให้รัฐธรรมนูญก็คงต้องขอออกจากห้องพิจารณาเช่นกัน
ล่าสุดทางเพจไทยภักดี ได้เผยแพร่คลิปวิดิโอของ ผศ.พิมพ์ณัฐชยา สัจจาศิลป์ หรืออาจารย์ตา คณะกรรมการโฆษกพรรคไทยภักดี ที่ได้กล่าวถึงนางสาวปนัสยา ในฐานะที่เป็นแม่ ได้กล่าวเตือนสติถึงการเคลื่อนไหวของนางสาวปนัสยาได้อย่างสนใจ
ในขณะที่นายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว คณะกรรมการโฆษกไทยภักดี ได้พูดถึงกรณีดังกล่าวว่า ในนามคณะกรรมการโฆษกพรรคไทยภักดี จากภาพในอดีตที่ผ่านมาทุกท่านจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ในบทบาทที่ผมเป็นอดีตแกนนำศปปส.นั้นผมมีอุดมการณ์อย่างชัดเจนในการออกมาปกป้องสถาบัน
และสืบเนื่องจากวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมาได้มีการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและระบุไว้อย่างชัดเจนว่า การที่พวกแกนนำเครือข่าย 3 นิ้วที่ออกมาอ้างการปฏิรูปสถาบัน โดยมีข้อเรียกร้องแยกออกมา 10 ข้อ ซึ่งขัดต่อมาตรา 49 ว่าด้วยบุคคลที่จะใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้ ยกตัวอย่างเช่น การปราศรัยเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 โดยกิจกรรมทวงอำนาจคืนราษฎรที่ท้องสนามหลวงและมีการโพสต์ข้อความในกิจกรรมราษฎรสาส์น การปราศรัยเสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และการปราศรัยกิจกรรม กูสั่งให้มึงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ที่หน้ารัฐสภาเป็นต้น
โดยแกนนำไม่ว่าจะเป็นเพนกวิน รุ้ง ไมค์ เบญจา มายด์ อานนท์ นำภาและอีกหลายๆคน ซึ่งโดนคดีมาตรา 112 ทั้งๆที่ทราบดีอยู่แล้วว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและยันจะแหกตาประชาชน ไม่ว่าจะเป็นด้วยวาทะกรรม พฤติกรรม ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน รวมไปถึงการพูดให้ร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์บนหลายๆเวทีในการชุมนุมอย่างไม่มีหลักฐานและยังมีการอ้างเสรีภาพโดยที่พวกคุณเองยังไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้ที่เห็นต่างเลยแม้แต่น้อย หากผู้ที่เห็นต่างจะพูดหรือแย้งยังไง พวกเขาก็จะใช้กระบวนการในการทัวร์ลงบ้าง แบนบ้าง หรือบูลลี่บ้าง ด่าทอบ้าง คุกคามบ้าง ถึงขั้นบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของบุคคลที่เห็นต่าง โดยไม่คำนึงถึงการอ้างเสรีภาพที่พวกคุณนั้น ชอบอ้าปากพูดออกกันมา ดังนั้น การกระทำเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ผิดมนุษย์และย้อนแย้งในหัวสมองของตนเองหรือไม่ ความคิดของคนแบบนี้เข้าข่ายกบฏ เพราะฉะนั้น ควรที่จะอยู่ในคุกในตาราง ตามคำสั่งศาลแล้วว่าด้วย ให้หยุดการกระทำนั้นเสียเพราะอย่างไรก็ตาม สถาบันพระมหากษัตริย์จะอยู่คู่กับชาติไทยตลอดไปเพื่อธำรงความเป็นชาติไทยสืบไป