เปิดลึก “เพรียวพันธ์” พี่หญิงอ้อ! ลือแคนดิเดตนายกฯพท.? คนที่ทักษิณ มั่นใจชนะแลนด์สไลด์!

2514

เปิดลึก “เพรียวพันธ์” พี่หญิงอ้อ! ลือแคนดิเดตนายกฯพท.? คนที่ทักษิณ มั่นใจชนะแลนด์สไลด์!

จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มี ส.ส.อุบลราชธานีรายหนึ่งของพรรคเพื่อไทย ส่งคลิปวิดีโอเข้ากลุ่มไลน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยเป็นคลิปบรรยากาศงานเลี้ยง ส.ส.และผู้บริหารพรรคที่จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ วิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยกับ ส.ส.ของพรรคด้วย

โดยเนื้อหาในคลิปเป็นช่วงที่นายทักษิณเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานถามคำถาม ซึ่งนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรค และแกนนำภาคอีสาน จากจ.อุบลราชธานี เป็นผู้สอบถามถึงความเป็นไปได้ในการให้ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยานายทักษิณ มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะหากคุณหญิงพจมานมารับตำแหน่ง เชื่อว่าจะเป็นแม่เหล็ก ลูกน้องเก่าๆจะกลับมาทั้งหมด

“ถ้าคุณหญิง (พจมาน) รับปากว่าจะมาเป็นหัวหน้าพรรรค เจ้านาย (นายทักษิณ) จะว่าอย่างไร” นายเกรียง ถาม ทำให้ผู้ร่วมงานต่างปรบมือและส่งเสียงเชียร์ เมื่อนายทักษิณได้ฟังคำถามก็มีอาการอมยิ้มก่อนตอบว่า “คุณหญิงพจมานเป็นคนไม่ชอบการเมืองที่สุด แต่ที่ผ่านมาตกกระไดพลอยโจน คุณหญิงอาจจะอายุมากไปนะ และถ้าไม่จำเป็นอย่างยิ่งยวด คุณหญิงจะไม่ขอลงการเมือง เพราะไม่ชอบ สองปราศรัยไม่ถนัด ไม่ถนัดที่จะพูดต่อหน้าคนเยอะๆ เป็นคนนั่งเป็นประธานในที่ประชุมได้ แต่ว่าไปขึ้นปราศรัย ขึ้นเวทีทักทายประชาชนทำไม่เป็น”

จากนั้นนายเกรียงได้กล่าวทีเล่นทีจริงด้วยว่า “ที่ผมคิดไว้ในใจไม่มีผิดว่า ท่านเก็บไว้ใช้คนเดียว” ทำให้ผู้ร่วมงานรวมทั้งนายทักษิณต่างหัวเราะชอบใจ ในช่วงท้ายคลิป นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า “ผมมีหลายแนวทาง รับรองว่าแต่ละแนวทางเนี่ย ส.ส.ที่คิดจะออก รับตังค์เขามาแล้ว ต้องเอาตังค์ไปคืน เที่ยวนี้ต้องชนะแลนด์สไลด์ เพราะว่าชนะธรรมดา มันไม่ให้เป็นรัฐบาลหรอก ถ้าแลนด์สไลด์มันไม่กล้าเป็นรัฐบาล ต้องเอาแลนด์สไลด์ชนิดที่ไม่กล้าเป็นรัฐบาล”

ต่อมามีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า หลังจากมีการแชร์คลิปวิดีโอดังกล่าวได้ไม่นาน ก็ได้มีการลบคลิปออกกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยไม่ทราบสาเหตุ

อย่างไรก็ตาม นายทักษิณ ก็มีความมั่นใจว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ พรรคเพื่อไทย จะชนะแลนด์สไลด์ เหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน ซึ่งในการเลือกตั้งในครั้งนั้น พรรคที่ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมากที่สุดคือ พรรคเพื่อไทย 15,744,190 คะแนน คิดเป็น 44.72% ของจำนวนผู้ที่ออกมาเลือกตั้งในปี 2554 ผลปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยได้ที่นั่งผู้แทนราษฎรเกินกึ่งหนึ่ง 265 ที่ นับเป็นครั้งที่สองในรอบทศวรรษที่มีพรรคการเมืองได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ก็มีการพูดถึง นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ หรือ “พงศ์” ลูกเขยของ นายทักษิณ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย และก็ยังมีอีกหนึ่งกระแสที่บอกว่า คนที่จะเป็นแคนดิเดตนายกของเพื่อไทยอีกคนหนึ่งก็คือ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มาดามพงศ์ ซึ่งเป็นพี่ชายของคุณหญิงพจมาน ซึ่งคาดว่า ทางนายทักษิณ เชื่อว่า การที่นำคนในวงศาคณาญาติมาเป็นแคนดิเดตนายกฯนั้น จะสามารถดึงคนที่สนับสนุนตนเองมาได้ และมีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้สูง

สำหรับพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระหว่างเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 ถึงกันยายน พ.ศ. 2555

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เข้าสู่วงการตำรวจ เริ่มรับราชการเมื่อปี พ.ศ. 2514 ตำแหน่งสำรองพิเศษ สังกัด กก.2ส. ต่อมาได้เป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร ในปี พ.ศ. 2517 (โดยสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผ่านการอบรมหลักสูตร นายร้อยตำรวจอบรม รุ่นที่ 16 (นรอ.16)) ดำรงตำแหน่งรองสารวัตรแผนก 1 กก.สส.นครบาลเหนือ และได้ดำรงตำแหน่งวนเวียนอยู่เฉพาะในเขตนครบาลเกือบ 10 ปี โดยเป็นสารวัตรสอบสวน สน.จักรวรรดิ สน.ปทุมวัน และสน.ทุ่งมหาเมฆ จนถึงปี พ.ศ. 2523 ได้เป็น สารวัตรปราบปราม สน.นางเลิ้ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2526 จึงได้ออกต่างจังหวัดระยะสั้น ๆ โดยดำรงตำแหน่งสารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จ.ภูเก็ต ไม่ถึง 1 ปีก็กลับเข้านครบาลอีกครั้ง มีผลงานโดดเด่นด้านการปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายทำสงครามกับยาเสพติดในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และเติบโตก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ราชการอย่างมาก โดยได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ครองยศ พล.ต.อ. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547

ต่อมาหลังการ รัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ถูกโยกย้ายไปเป็น ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ด้านความมั่นคง ในสังกัดสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เนื่องจากคณะรัฐประหารมองว่าพลตำรวจเอกเพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ มีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับรัฐบาลชุดเก่า ต่อมาหลังจากพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2551 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้กลับมาดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง ในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2551 จนถึงปัจจุบัน

แม้จะเพิ่งกลับมาดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2551 แต่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ถือเป็น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่มีอาวุโสสูงสุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีคำสั่งศาลปกครองให้นับอาวุโสของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ต่อเนื่องตั้งแต่ได้ดำรงตำแหน่งครั้งแรก ทำให้เป็นผู้หนึ่งที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่จะได้รับแต่งตั้งเป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่อจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่จะเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. 2552

ซึ่งเมื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา สบ.10 ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ออกมาเคลื่อนไหว เพื่อขอความเป็นธรรม โดยยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เนื่องจากตนเป็นรอง ผบ.ตร.ที่อาวุโสสูงสุด จึงควรจะได้รับตำแหน่งนี้มากกว่า โดยสาเหตุที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในฐานะที่มีอำนาจหน้าที่เสนอชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ยอมเสนอพลตำรวจเอกเพรียวพันธ์นั้นด้วยเหตุที่ว่าพลตำรวจเอกเพรียวพันธ์มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับขั้วอำนาจทางการเมืองของดร.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้าม

ต่อมาในกลางปี พ.ศ. 2554 ขณะที่คณะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ได้ขอลาพักผ่อน ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จากนั้นก็โอน พล.ต.อ.วิเชียร ไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554 คณะรัฐมนตรีจึงตั้ง พล.ต.อ.วิเชียรเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และส่งผลให้พล.ต.อ. เพรียวพันธ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น ผบ.ตร. ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ภายหลังเกษียณอายุราชการแล้ว พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555