ชัดเจนเป็นอย่างมาก! “ดร.นิว” เปิดเอกสารลับ CIA ความจริง 14 ตุลา แท้ที่จริง ในหลวง ร.9 ยืนหยัดข้างประชาชน!
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ทางด้าน ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวในเรื่อง ความจริงเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ในหลวงทรงอยู่เคียงข้างประชาชน โดยมีรายละเอียดว่า
เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 เป็นการต่อสู้ของนักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชนเพื่อขับไล่เผด็จการทหาร โดยไม่ได้มีความขัดแย้งกับสถาบันพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด แต่ในทางตรงกันข้าม สถาบันพระมหากษัตริย์กลับอยู่เคียงข้างประชาชน และได้กลายเป็นกำลังสำคัญของประชาชนในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยจากเผด็จการอย่างชัดเจน
ดังที่สามารถเห็นได้จากการเดินชูพระบรมฉายาลักษณ์จำนวนมากของในหลวงภูมิพลโดยขบวนเดโชชัย ซึ่งเป็นขบวนที่อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์โดยเฉพาะ จัดอยู่ในขบวนคนเดินลำดับถัดจากริ้วขบวนธงชาติและขบวนเสมาธรรมจักร แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือ จิตวิญญาณประชาธิปไตยไทยของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง
ตลอดจนการเปิดวังสวนจิตรลดาในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 14 ตุลา 2516 เพื่อช่วยเหลือนักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชน ที่เข้ามาอาศัยพระบารมีปกเกล้าฯ เป็นที่พึ่ง ซึ่งในหลวงภูมิพลและสมเด็จพระราชินี พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอทั้งสองพระองค์ ได้เสด็จออกมารับด้วยพระองค์เอง
นอกจากนี้เอกสารลับของ CIA รหัส 0005379411 ยังได้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีใจความสำคัญระบุว่า การเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาและปัญญาชนจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากในหลวงภูมิพล ซึ่งการผลักดันของพระองค์ท่านในทางการเมืองนับได้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งเดียวที่สำคัญที่สุดต่อสมการใหม่ทางการเมืองของไทย
ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าในหลวงภูมิพลอยู่ข้างไหนนับตั้งแต่ที่มีการเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาเกิดขึ้น โดยการประท้วงใหญ่ครั้งแรกของนิสิตนักศึกษาในเดือนมิถุนายน 2516 ทางวังได้จัดเต็นท์และส่งเสบียงอาหารสนับสนุนการประท้วง การกระทำดังกล่าวส่งผลให้ในหลวงภูมิพลเป็นที่รักใคร่ของนิสิตนักศึกษาและประชาชนทั่วไป แต่กลับก้าวเข้าสู่ความขัดแย้งกับรัฐบาลจอมพลถนอม เป็นกุญแจสำคัญไปสู่การลาออกของจอมพลถนอมกับจอมพลประภาส และการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยพระองค์ท่านได้ทรงใช้พระบารมีและความเป็นที่นิยมในการสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากพลเรือนเป็นอย่างมาก
อีกทั้งเอกสารฉบับนี้ยังได้เน้นย้ำต่อไปอีกว่า นี่คือบทบาทใหม่ของในหลวงภูมิพลและสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย หลังจากตกอยู่ในฐานะเสมือนนักโทษของเผด็จการทหารมาโดยตลอด นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
แต่ปัจจุบันเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 กำลังถูกบิดเบือนด้วยประวัติศาสตร์ที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่โดยกบฏกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแอบอ้างประชาธิปไตยอย่างฉาบฉวย หากแต่ไส้ในเป็นลัทธิอนาธิปไตยหัวรุนแรง คลั่งการปฏิวัติแนวทางรุนแรงที่ล้าหลังและป่าเถื่อน ไม่ได้ต้องการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นประชาธิปไตยในประเทศไทย หากแต่ต้องการสร้างความเกลียดชังและความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
หวังชี้นำไปสู่การโค่นล้มเปลี่ยนแปลงการปกครองด้วยการลุกขึ้นสู้ก่อจลาจลและสงครามกลางเมือง ผ่านการปั่นกระแสบิดเบือนล้างสมองในโซเชียลมีเดียอย่างสกปรกโสมม เพื่อบิดเบือนใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ให้กลายเป็นเผด็จการไปเสีย ทั้งๆที่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นกำลังของประชาชน และเป็นหนึ่งในจิตวิญญาณประชาธิปไตยไทย