นักวิเคราะห์คาดคนอเมริกันกว่า 179 ล้านคนจะไม่มีน้ำประปา-ไฟฟ้าใช้ ในอีกไม่ถึงสัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากไม่สามารถจ่ายบิลล์ได้ คนป่วยเบาหวานต้องแช่อินซุลินใส่คูลเลอร์แทนเพราะไม่มีตู้เย็นใช้ ไม่มีแก็สหุงต้ม เงินช่วยเหลือเยียวยาของรัฐบาลหมดลงตั้งแต่ปลายเดือนกรกฏาคม และยังตกลงกันไม่ได้ระหว่างรัฐบาลและสภาคองเกรสว่าจะจัดสรรเงินเท่าไหร่ แต่คนอเมริกันส่วนใหญ่กำลังเผชิญความยากลำบากอย่างแสนสาหัส เศรษฐกิจดิ่งเหว การระบาดโควิดระลอกใหม่ทำผู้ป่วยพุ่งทั่วประเทศ ไม่มีเงิน ไม่มีงาน ขาดรายได้สุ่มเสี่ยงไร้บ้านอย่างมโหฬาร
ตัวอย่างคนอเมริกันวัย 67 ปี เคนเนท พาร์สัน ในคืนอันหนาวเหน็บ เขาถูกตัดไฟตั้งแต่ฤดูร้อน ไม่มีไฟฟ้าใช้ นับตั้งแต่สิ้นเดือนกรกฎาคม การถูกตัดไฟหมายความว่า ไม่มีตู้เย็น, ทำให้พาร์สันซึ่งเป็นเบาหวาน ต้องแช่อินซุลินของเขาในกระติกน้ำแข็งแทน เขาไม่สามารถทำอาหารที่บ้าน ดังนั้นภรรยาของเขาเชอร์ริล ต้องไปเตรียมอาหารในครัวเพื่อนบ้านแทน
ในช่วงสองสามวันแรกตอนถูกตัดไฟ เชอร์ริลขอให้พาร์สันไปขอร้องผู้รับผิดชอบที่ดูแลไฟฟ้าท้องถิ่นและหวังว่าพวกเขาจะเข้าใจสภาวะที่คนอเมริกันต้องเผชิญการระบาดไวรัสโควิด และเศรษฐกิจตกต่ำไม่มีงานไม่มีรายได้ แต่พวกเขาบอกว่า “ทำอะไรให้ไม่ได้และทำให้ฉันโกรธ
วิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดใน1 ช่วงอายุคน ได้ส่งผลกระทบกับคนอเมริกันนับล้านทั่วประเทศต้องเผชิญความยากลำบากร่วมกัน เงินสดขาดมือ และบางทีไม่มีงานทำ และพวกเขาไม่สามารถชำระบิลล์ค่าใช้จ่ายจำเป็นทั้งค่าไฟฟ้า น้ำประปาและแก๊สหุงต้ม ซึ่งไม่ต้องพูดถึงการหาเงินมาชำระคืนเพราะดอกเบี้ยจะพุ่งสูงขี้นจนยอดเงินสูงขึ้นเกินความสามารถที่จะกลับมาจ่ายคืนได้
นับตั้งแต่การระบาดไวรัสโควิด-19 หลายมลรัฐแสดงออกอย่างกระตือรือร้นว่า ประชาชนในพื้นที่ของพวกเขาจะต้องไม่ขาดน้ำกินน้ำใช้และไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด แม้ว่างานที่ทำอยู่หรือค่าแรงที่ได้รับอยู่จะตกลงไปก็ตาม แต่ปัจจุบัน เพียงแค่ 21 มลรัฐ และดีซี (The District of Columbia) เท่านั้นที่ยังคงไม่ถูกตัดกระแสไฟฟ้า นั่นหมายความว่า คนอเมริกันกว่า 179 ล้านคนสุ่มเสี่ยงเผชิญถูกตัดน้ำตัดไฟ ถ้าสภาพเศรษฐกิจยังดิ่งสาหัสเช่นนี้ต่อเนื่องไปอีก ดังที่ผู้อำนวยการ คณะกรรมการช่วยเหลือด้านพลังงานซี่งดูแลปัญหาเหล่านี้ เปิดเผยว่า คนนับล้านใน 9 มลรัฐถูกกำหนดให้ถูกระงับการอุดหนุนแล้ว จะเริ่มในวันพฤหัสบดีที่จะถึงและยาวไปจนจบฤดูหนาวนี้
คนอเมริกันทั่วประเทศต่างแพ่พ่ายกับชีวิตอย่างราบคาบเมื่อขาดเงินชำระบิลล์ค่าน้ำค่าไฟค่าแก๊สหุงต้มดอกเบี่ยของไฟฟ้าและแก๊สพุ่งไปถึง 24.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปลายปีนี้ จากการวิเคราะห์ของหน่วยงาน NEADA ในมลรัฐประมาณ 24 แห่ง ข้อมูลจากรัฐท้องถิ่น ในรัฐอินเดียนา จำนวนมากกว่า 112,000 ครัวเรือนอยู่ในระยะ 120 วันของการจ่ายค่าไฟฟ้า ตามที่วอชิงตันโพสต์วิเคราะห์ตามยอดค้างจ่ายจากผู้ใช้ในบริษัทพลังงานในสหรัฐ ดอกเบี้ยนับล้านมากกว่าเดิม 4 เท่าของยอดค้างจ่ายในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2019
“ประชาชนผู้ดิ้นรนมาก่อนหน้านี้กำลังดิ้นรนอย่างหนักกว่าเดิม” มาร์ค วอล์ฟ ผู้อำนวยการ NEADA กล่าว
บริษัทพลังงาน ไม่ได้สนใจว่าจะมีคนอเมริกันสักกี่คนที่จ่ายเงินค่าไฟฟ้าให้เขา มีปัญหาอะไรหรือคิดศึกษาว่าพวกเขาได้รับผลกระทบอะไรจากการระบาดโควิด-19 ในบางกรณี ผู้จำหน่ายไฟฟ้า, น้ำประปาและแก๊สต่างพากันลอบบี้ต่อต้านการขอเลื่อนเวลาพักชำระหนี้ค้างจ่ายทั้งหลาย ซึ่งพวกเขามองว่าเหมาะสมแล้วด้วยซ้ำ
การขาดความสามารถในการชำระค่าน้ำค่าไฟฟ้าของคนอเมริกัน เกิดจากการขาดเงินสดต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 7 เดือน นับตั้งแต่เกิดการระบาดไวรัสโควิด-19 และเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยหนัก ในระดับชาติ คนวัยทำงานยังคงบอกว่าพวกเขาเผชิญความยากลำบากในการจ่ายค่าเช่าบ้าน ตามการสำรวจของ U.S.Cesus Bureau ประมาณการวว่า แรงงาน 837,000 อยู่ในภาวะตกงานและไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยา
เมื่อครั้งที่โควิดระบาดหนักช่วงใบไม้ผลิ รัฐบาลจัดงบประมาณเกือบ 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และพุ่งเป้าไปอุ้มภาคแรงงานที่ตกงาน ช่วยค่าใช้จ่ายรายสัปดาห์ รวมทั้งงบฯช่วยค่าใช้ไฟฟ้าด้วย แต่ปัจจุบันงบฯนั้นหมดระยะเวลาช่วยเหลือแล้วตั้งแต่สิ้นเดือนกรกฎาคม และจนป่านนี้รัฐบาลกับสภาคองเกรซยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะจัดงบฯใหม่เท่าไหร่และเริ่มเมื่อไหร่
เดิมพันครั้งนี้สูงขึ้นในชุมชนที่ผลิตไฟฟ้าและน้ำประปา ตลอดจนแก๊สหุงต้มใช้เอง ด้วยงบประมาณท้องถิ่นที่ไม่แน่ไม่นอน และการรอคอยงบสนับสนุนจากส่วนกลางวอชิงตันนับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลายเมืองในรัฐต่างๆล้วนไม่สามารถรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะไม่สามารถยอมให้ผู้ถือหุ้นสูญเสียรายได
ในนอร์ทแคลิฟอร์เนีย มากกว่า 1 ล้านหลังคาเรือนช่วงหน้าร้อนไม่สามารถจ่ายบิลล์ค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะในย่านชนบท ได้มีการเรียกร้องของให้ทางการเลื่อนหรือพักการชำระหนี้ ในรัฐจอร์เจียก็เช่นกัน ทางการช่วยเหลือด้านการพักชำระหนี้เฉพาะ กิจการเอกชนเช่น กิจการไฟฟ้าจอร์เจีย แต่การเป็นเจ้าของกิจการพลังงานในกริฟฟิน เมืองที่มีพลเมือง 23,000 คนที่ครอบครัวของพาร์สันอาศัยอยู่ ได้เข้าเกณฑ์ระยะสั้นในการช่วยเหลือ กับกลุ่มจอร์เจียวอช ซึ่งเป็นกลุ่มที่ปรึกษาท้องถิ่น แต่ก็ไม่ทำอะไรกับปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ผู้จัดการกลุ่มไม่ออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด
ถึงแม้จะไม่มีการตัดไฟ อากาศหนาวโหดที่กำลังจะมาในหน้าหนาวที่จะถึงนี้ก็เป็นปัญหาใหญ่หลวงนักสำหรับประชาชนในขอบเขตทั่วประเทศ กล่าวคือคนอเมริกันต้องเข้าสู่ฤดูหนาวที่แสนจะแพงหูฉี่แต่การตัดไฟนี้จะส่งผลกระทบในวงกว้าง และบางกรณี ก็จะดูแลเฉพาะครัวเรือนที่มีรายได้น้อยจากการถูกตัดไฟเท่านั้น เสียงร้องระงมกับชะตากรรมที่คนอเมริกันจะต้องเผชิญในระยะเวลาอันใกล้นี้เกิดขึ้นแล้วท่ามกลางการระบาดใหญ่โควิดยังแผลงฤทธิ์ไม่หยุด
แทนที่รัฐบาลจะมีการพูดถึงสถานการณ์ที่เป็นจริง และเริ่มด้วยการใช้จ่ายเงิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยคนอเมริกันรายได้น้อยได้สามารถจ่ายบิลล์ค่าไฟ ค่าน้ำ และควรเป็นมาตรการหนึ่งที่จำเป็นต้องทำของรัฐบาล เป็นที่รู้กันว่า ในอุตสาหกรรมทั้งหลายที่รวมถึงพลังงาน และบริการน้ำ กฎหมายเสนอให้ทุนเพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ต้องจ่ายค่าน้ำ แต่ไม่ได้กำหนดระยะเวลาที่แน่นอนและไม่ได้กำหนดบังคับเป็นหัวข้อจำเป็นสูงสุดของผู้มีอำนาจที่จะต้องทำ
ในขณะเดียวกันการช่วยเหลือของรัฐนั้น วอล์ฟ ผู้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐด้านพลังงานจากหน่วย NEADA ได้อธิบายสถานการณ์เช่นนี้ว่า มันเป็นหน้าผา ของความน่าจะเป็นสำหรับคนอเมริกันทั่วประเทศ “ระบบปัจจุบันไม่ได้ออกแบบมาให้คนกลุ่มนี้ (คนยากคนจน)”
