โลกเสี่ยงสงครามนิวเคลียร์?!? ปูตินไม่สนสหรัฐก่อกวน อวดแสนยานุภาพขีปนาวุธล่องหนไฮเปอร์โซนิกพร้อมตอบโต้

1979

ชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 เริ่มส่อเค้าเครียดเขม็ง  เมื่อเครมลิน-วอชิงตันอัดกันยับและ ยังวนเวียนอยู่ที่ภูมิภาคตะวันออกกลาง จะว่าครั้งแรกในปีนี้ก็ได้ที่ปูตินประณามสหรัฐ อย่างเปิดเผย ว่าเป็นตัวการเร่งสงครามนิวเคลียร์ทำให้รัสเซียต้องพัฒนาอาวุธไฮเปอร์โซนิก เพื่อตอบโต้และป้องกันตนเอง สหรัฐเป็นฝ่ายฉีกสัญญาควบคุมการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ทุกฉบับและสหรัฐก็วางฐานทัพไว้ทั่วโลก หลังสหรัฐคว่ำบาตรตุรกีแก้เผ็ดที่ซื้อ S-400 จากรัสเซีย ทำให้ปูตินไม่ทนเฉยอีกต่อไป จับตากระแสตึงเครียดและลมสงครามที่จะมีโอกาสแพร่มาถึงประเทศไทย

โลกสะเทือนเมื่อปูตินคำราม

กองทัพรัสเซียประสบความสำเร็จ การทดสอบทางทะเล ขีปนาวุธต่อต้านเรือรุ่นใหม่ แบบไฮเปอร์โซนิก หรือเร็วกว่าความเร็วเสียง 5 เท่าขึ้นไป

อาวุธความเร็วเหนือเสียง หรือไฮเปอร์โซนิกเป็นเทคโนโลยีทางทหารล่าสุดที่บรรดาประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ จีน รัสเซีย รวมถึงอินเดียให้ความสนใจจนนำมาสู่ความกังวลว่าประเทศเหล่านี้จะเกิดการแข่งขันกันสะสมอาวุธที่ถูกมองว่าเป็นตัวชี้วัดสถานะทางยุทธศาสตร์ของประเทศที่พัฒนาสำเร็จ คุณสมบัติที่โดดเด่นของขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงคือ มีความเร็วตั้งแต่มัค 5 ขึ้นไป หรือเร็วกว่าความเร็วของเสียง 5 เท่า หรือเร็วกว่า 1.6 กิโลเมตรต่อวินาที และยังมีทิศทางการบินเป็นเส้นซิกแซก ทำให้คาดเดาทิศทางการโจมตีเป้าหมายได้ยากแม้จะใช้ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับก็ตาม และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีระบบต่อต้านขีปนาวุธใดทำลายขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกได้เลย

ขีปนาวุธของรัสเซียมีทั้งความเร็ว ความสามารถในการหลบหลีกระบบตรวจจับขีปนาวุธในระดับที่ “ไม่มีใครทำลายได้” จนทำให้รัสเซียผงาดเป็นผู้นำในด้านขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก และอาจทำให้สหรัฐมีอาการหนาวๆ ร้อนๆ ได้

คำถามสำคัญ “ทำไมรัสเซียต้องมีขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก” ปูตินเปิดเผยเศรษฐกิจรัสเซียดีกว่าที่คาดไว้ GDP ลดลง 3.6% ซึ่งน้อยกว่าสหรัฐและยุโรปและเพิ่งได้รับคำชมจากบลูมเบิร์กว่าจะเป็นตลาดเกิดใหม่ดาวรุ่งอันดับ 2 ของโลกในปี 2021

นักข่าวบีบีซีถามปูตินว่า รัสเซียเป็นกู๊ดดี้ทูชูว์ (Goody-Two- Shoes:คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดจนน่าหมั่นไส้หรือจะแปลว่าไม้เบื่อไม้เมาก็ได้) กับรัฐตะวันตกหรือไม่ ปูตินตอบว่า คงไม่ใช่หรอก งบฯกระทรวงกลาโหมของรัสเซียอยู่ในอันดับ 6 ของโลก เทียบไม่ได้กับสหรัฐ และรัสเซียไม่ได้มีฐานทัพอยู่ทั่วโลกเหมือนสหรัฐ แต่รัสเซียมีความจำเป็นต้องพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ เพราะถูกบีบบังคับจากพันธมิตรนาโต้ ทำให้รัสเซียต้องเปิดตัว “ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง” (ไฮเปอร์โซนิก) และเพราะสหรัฐเป็นผู้ฉีกสัญญาควบคุมนิวเคลียร์ ทั้ง นิวสแตท (New Starte) และ ไอเอ็นเอฟ (INF) รวมทั้งโอเพนสกาย (Open Skies Operations) ปูตินตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้ที่นาโตจะโอนถ่ายข้อมูลจากเที่ยวบินของรัสเซียไปยังวอชิงตัน  ในขณะที่มอสโคไม่สามารถสังเกตการณ์การบินเหนือน่านฟ้าสหรัฐได้เลย

การแถลงข่าวของปูตินเกิดขึ้นหลังจากสหรัฐประกาศคว่ำบาตรตุรกีไม่นานทั้งที่เป็นพันธมิตรนาโต้ด้วยกัน ทำแอร์โดอันควันออกหู

สหรัฐคว่ำบาตรตุรกี อิจฉาซื้อขีปนาวุธรัสเซีย

เมื่อวันจันทร์14 ธ.ค.2563 สหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจตุรกี กรณีจัดซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธของรัสเซีย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับพันธมิตรนาโต้ด้วยกันมา

สหรัฐฯ เล่นงานอย่างเจาะจงต่อ หน่วยงานด้านการจัดซื้ออาวุธของรัฐบาลตุรกี ที่เรียกว่า Presidency of Defence Industries (SSB) โดยแบนทุกใบอนุญาตส่งออกของสหรัฐฯ และสินเชื่อเงินกู้สำหรับหน่วยงานแห่งนี้ นอกจากนี้แล้วอเมริกายังสั่งห้ามประธานของ SSB เดินทางเข้าประเทศ หรือถือครองทรัพย์สินต่างๆ ในสหรัฐฯ ด้วย

ในวันพุธที่ 16 ธ.ค.เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี ประณามความเคลื่อนไหวของสหัฐฯทันควัน  ว่า “พวกเขาเป็นพันธมิตรแบบไหนกัน?” “การตัดสินใจนี้คือการโจมตีอย่างโจ่งแจ้งต่ออำนาจอธิปไตยของเรา”

เมื่อวันพฤหัสที่ 17 ธ.ค.ผ่านมาไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ให้คำรับประกันกับรัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกี ว่ามาตรการคว่ำบาตรของอเมริกาที่กำหนดเล่นงานอังการา โทษฐานที่ซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธของรัสเซีย ไม่ได้มีเจตนาทำให้ศักยภาพด้านการทหารของตุรกีอ่อนแอลง โถ..คิดว่าปธน.แอร์โดอันคงจะเชื่อหรอก

พอมเพโอได้มีโอกาสพูดคุยกับ เมฟลุต คาวูโซกลู รมว.ต่างประเทศของตุรกี  และเน้นย้ำว่าเป้าหมายของมาตรการคว่ำบาตรก็เพื่อป้องกันไม่ให้ รัสเซียมีรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ เข้าถึงและมีอิทธิพล พอมเพโอยังได้เรียกร้องให้ตุรกี “คลี่คลายประเด็น S-400 ในแนวทางที่สอดคล้องกับประวติศาสตร์แห่งความร่วมมือภาคกลาโหมของเราที่มีมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ และกลับมาทำตามพันธสัญญาที่เคยให้ไว้กับนาโตว่าจะซื้ออาวุธที่สามารถทำงานเข้ากันได้กับระบบอาวุธของนาโต”