สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา เพจภาคีประชาชนฯ ปกป้องสถาบัน ได้พาทางด้านของร.ต.ท.หญิงเรวดี ศรีท้าว อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย และนางสาววชิรา เอื้อดำรงสิริ เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก “เจนิเฟอร์ คิ้ม” นักร้องชื่อดัง
รวมถึงนางสาววริษนันม์ ศรีบวรธนกิจ แอดมินเจน “เพจเชียร์ลุง” ผู้ได้รับมอบอำนาจ นายพีรกร โพธิ์ประเสริฐ หรือ กัสเบล ดารานักแสดง เข้ายื่นหนังสือแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับ การปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.)
เนื่องจากถูกเจ้าของบัญชีโซเชียล 200 ราย เข้าไปแสดงความเห็นโจมตีถล่มผู้เสียหายในลักษณะข่มขู่ ก้าวร้าว กลั่นแกล้ง ด้อยค่าผู้เสียหาย โดยทางด้านร.ต.ท.หญิงเรวดี ได้เปิดเผยผ่านสื่ออีกด้วยว่า จะเอาผิดกับผู้โพสต์ที่ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะถือว่าเป็นการไม่เคารพสิทธิ์ของผู้อื่น โดยจะไม่เจรจายอมความใด ๆ ทั้งสิ้น
โดยเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา ร.ต.ท.หญิง เรวดี ศรีท้าว อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย เดินทางมาพร้อมแอดมินเจน น.ส.วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ (แอดมินเพจเชียร์ลุง) แกนนำภาคีประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ฯ เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.ตามนัดหมายให้มาเจรจาไกล่เกลี่ยคู่กรณี อายุ 19 ปี รายหนึ่งจากจำนวน 50 รายที่เข้าไป “ทัวร์ลง” ร่วมกันแสดงความเห็นในเฟซบุ๊กบัญชีชื่อ Reawadee Srithoa ลักษณะบูลลี่ โจมตีดูถูกด้อยค่าที่โพสต์เตือนสตินักกีฬาที่ชาติไทยรุ่นน้องว่า “สิ่งสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จก็คือ เราต้องรู้หน้าที่” เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.ได้ตรวจสอบบัญชีเฟซบุ๊กที่เข้ามาบลูลี่เรวดีแล้ว พบว่ามีเยาวชนร่วมกันเข้ามาแสดงความเห็นในลักษณะหมิ่นประมาทซึ่งหน้าและโดยการโฆษณา จึงได้ออกหมายเรียกมาพบในวันนี้ทั้ง 3 ราย แต่ถึงเวลาพบว่ามาตามหมายเรียกเพียงรายเดียวเป็นเยาวชนอายุ 19 ปี ชาวศรีสะเกษ เป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลทีมมหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษาอยู่ ได้ออกหมายเรียกมาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ พร้อมประสาน น.ส.เรวดี ผู้เสียหายซึ่งไม่มีความประสงค์จะเอาผิดกรณีที่พบว่าเป็นเยาวชน
โดยนายพร (นามสมมุติ) เยาวชน 19 ปี รายนี้เดินทางมาพร้อมคุณยายวัย 70 ปี จาก จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นผู้ปกครอง หลังเข้าพบพนักงานสอบสวนนานกว่า 2 ชม. เรวดี ยินยอมยกโทษให้ นายพร เยาวชน 19 ปี พร้อมอบรมตัดเตือนสั่งสอนในฐานะอดีตนักกีฬาทีมชาติ ว่า “ตนเชื่อมั่นเสมอว่าคนที่เล่นกีฬาจะมีความฉลาด ไม่ว่าจะด้านอารมณ์หรือสติปัญญามากกว่าคนอื่น จะใช้วิธีวิเคราะห์ เล่นวอลเล่ย์บอลต้องวิเคราะห์ลูกจะมาทางไหน รับอย่างไร ดังนั้นเราจะต้องฉลาด คนโง่จะเล่นกีฬาไม่ได้ ดังนั้นคุณจะต้องคิดวิเคราะห์ให้ได้ว่าใครจะโพสต์อะไรดี ไม่ดี ใช้ศักยภาพในการที่เราเป็นนักกีฬา อย่าให้ใครมาว่าเราอย่างที่ป้าเขียน โง่แล้วอวดฉลาด ป้าเชื่อเสมอว่าคนเป็นนักกีฬาไม่โง่
นอกจากนั้น ทางนายพร ยังรับปากว่าจะโพสต์ข้อความพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 9 ทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.-6 พ.ย.64 วันละ 1 โพสต์เป็นการขอโทษ โดยเรวดี ศรีท้าว ยินยอมให้อภัย บอกไม่ต้องกราบขอโทษตน แต่ขอให้กราบขอโทษคุณยายที่ต้องมาเสียเวลาเดือดร้อนต่อการกระทำของหลานด้วย ก่อนพนักงานสอบสวนจะลงบันทึกประจำวันและเร่งออกหมายเรียกเยาวชนอีก 2 รายเป็นครั้งที่สองมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในเพจเฟซบุ๊กเชียร์ลุง ได้โพสต์สรุปเหตุการณ์ ไว้ดังนี้ด้วยว่า อุทาหรณ์ เกรียนคีย์บอร์ด จากกรณี Bully คุณเรวดี ศรีท้าว ผู้กระทำผิด เป็นเยาวชนอายุ 19ปี เป็นนักวอลเลย์ฯ ของมหาวิทยาลัย เมื่อได้รับ ‘หมายเรียก’เครียดอยู่เกือบสัปดาห์ พาครอบครัว คือคุณยายวัยเกือบ 70ปี ต้องเครียดด้วย ยายต้องหยิบยืมเงินเพื่อนบ้าน เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
คุณเรวดี (ผู้เสียหาย) ได้พูดคุยกับน้อง ไม่ใช่เพียงในฐานะผู้เสียหาย แต่ได้เมตตาสอนน้องแบบ รุ่นพี่ทีมชาติที่ประสบความสำเร็จแล้ว สอนรุ่นน้อง น้องและคุณยายกล่าวคำขอโทษ พร้อมน้ำตาที่สำนึกผิดในการกระทำ
คุณเรวดี เห็นแก่อนาคตน้อง จึงยอม ‘ถอนแจ้งความ’ด้วยความหวังว่า น้องจะเป็นนักกีฬาที่ดี เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว และประเทศไทยต่อไป
น้องขอกราบเท้าพี่เรวดี และก้มลงไปกราบเอง (พาพวกเราน้ำตาซึมไปด้วย) พี่เรวดี รีบก้มลงไปรับไหว้น้อง และได้กล่าวคำให้อภัย ผู้เสียหาย ไม่ได้ใจดีกับ ผู้กระทำผิดเสมอไป กรณีนี้ น้องได้รับโทษทางใจมาหลายวันแล้ว ยายของน้องต้องไปหยิบยืมเงินเพื่อนบ้านเข้ากรุงเทพฯ น้องเป็นนักกีฬา ที่อาจจะทำประโยชน์ให้ส่วนรวมได้
เงื่อนไข การถอนแจ้งความคือ น้องต้องโพสต์ พระราชกรณียกิจของ “พ่อหลวงร.9” ตั้งแต่ 7-31 ตุลาคม2564 และจะไม่ร่วมขบวนทัวร์ไปลง Bully ใครอีกต่อไป
