หลังจากที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้เปิดเผย ถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ขอให้ดำเนินการวินิจฉัยยุบพรรค ก.ก. โดยกล่าวหาว่ากระทำการอันเป็นการล้มล้าง หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ว่าการตรวจสอบและการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ของพรรค ก.ก.ในมาตรา 36 เป็นการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเป็นหน้าที่อันพึงกระทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตจากสถานการณ์โรคระบาดของโรคโควิด-19 ที่ประชาชนได้ประสบกับความทุกข์ยากแสนสาหัส ยิ่งเป็นหน้าที่ที่ต้องพึงกระทำ การตรวจสอบและอภิปรายก็มีเจตนารมณ์ที่สุจริต เพื่อมุ่งหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสรรงบประมาณเกี่ยวกับสถาบันให้มีความเหมาะสมต่อสถานการณ์
พรรคก้าวไกลมั่นใจว่านายเรืองไกรที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาอย่างยาวนานย่อมรู้ข้อเท็จจริง และเจตนารมณ์ในการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบนี้อยู่แก่ใจ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะยังคงยืนหยัดทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทยอย่างเต็มที่ เพื่อปกป้องเงินภาษีทุกบาททุกสตางค์ที่เป็นหยาดเหงื่อที่เหนื่อยยากของพี่น้องประชาชนทุกคน และจะพยายามทำให้การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลนำมาซึ่งเศรษฐกิจปากท้องที่ดี และสวัสดิการสังคมบนความเสมอภาคของประชาชนให้ได้มากที่สุด
และพรรคก้าวไกลได้ยื่นฟ้องนายเรืองไกรในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และการกล่าวหาพรรค โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 101 ต่อศาลอาญา โดยเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2307/2564 โดยศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565
ล่าสุดในทวิตเตอร์ของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้ทวีตข้อความระบุว่า “ในเมื่องบประมาณ ต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎร และงบส่วนราชการในพระองค์ ก็อยู่ในมาตรา 36 หาก ส.ส. พบข้อสังเกต ในความเหมาะสมในการจัดสรรงบส่วนนี้ของรัฐบาล จะให้เพิกเฉย ไม่อภิปรายได้อย่างไร ยิ่งเป็นการจัดสรรงบที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ยิ่งต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบรัดกุม”
ทำให้มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และมีถ้อยคำที่พาดพิงสถาบันด้วย จึงน่าตั้งข้อสังเกตว่า การโพสต์ในลักษณะดังกล่าวของนายวิโรจน์ มีความหมิ่นเหม่ เจตนาพาดพิงถึงสถาบันหรือไม่ รวมทั้งการอภิปรายในนามพรรคก้าวไกล ที่ทำให้นายเรืองไกรลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นกกต.สอบยุบพรรคนั้น อาจจะเริ่มมีมูลความจริง และหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้น จากการกระทำและการแสดงออกมาผ่านโซเชียลของสมาชิกพรรค