ก้าวไกลระทึกหนัก! กกต.เรียก “เรืองไกร” เข้าให้ข้อมูลเพิ่มคดีร้องยุบพรรค ก่อนส่งศาลรธน.?
จากกรณีเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ดำเนินการวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล โดยใช้สิทธิรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 (1) และเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
โดยขอให้ กกต.ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 ด้วยการยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าจะต้องมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลหรือไม่
ทั้งนี้ ได้พบเห็นการกระทำตามคำร้อง เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2564 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล หลายคนได้ร่วมกันในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มาตรา 36 งบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการในพระองค์ รายละเอียดปรากฏตามรายงายการประชุมแบบคำต่อคำ (ชวเลข) และเทปวิดีโอบันทึกภาพและเสียง ซึ่งอยู่ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ต่อมา พรรคก้าวไกลได้นำข้อมูลการอภิปรายมาตรา 36 งบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการในพระองค์ ไปเผยแพร่ ทั้งข้อความ ภาพ และวิดีโอ ในเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกล เพื่อเผยแพร่สู้สาธารณชน ซ้ำอีก เป็นช่วง เป็นตอน เช่น จากการอภิปรายของ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในวาระพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณปี’65 มาตรา 36 งบฯส่วนราชการในพระองค์
การกระทำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล เช่น ข้อความที่ว่า “ความจงรักภักดีไม่ได้วัดกันที่จำนวนหน่วยถวายรักษาความปลอดภัย จำนวนข้าราชบริพาร จำนวนซุ้มเฉลิมพระเกียรติ หรือการใช้ 112 แจกจ่ายประชาชน” หรือ “ทำให้งบสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้…และไม่ถูกต้องตามหลักการของระบอบประชาธิปไตย ที่องค์พระมหากษัตริย์ อยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง…”
จึงเป็นหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคก้าวไกลได้กระทำการอัน “อาจเป็นปฏิปักษ์” ตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (2) ที่ควรขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคก้าวไกล ตามมาตรา 92 วรรคสอง ต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (25 กันยายน 2564) นายเรืองไกรได้เปิดเผยว่า ในวันพุธที่ 29 ก.ย. เวลา 10.00 น. ตนจะต้องไปให้ให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่ กกต. เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ครบถ้วนและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย กรณีดังกล่าวมาจากที่ตนยื่นคำร้องขอให้ กกต. ตรวจสอบ ส.ส. พรรคก้าวไกล ที่นำข้อมูลการอภิปรายร่าง พรบ.งปม. 2565 บางมาตรามาเผยแพร่ซ้ำต่อสาธารณะในเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล ซึ่งควรถือเป็นความรับผิดชอบของพรรคและควรต้องอยู่ในบังคับหรือปฏิบัติตาม พรป.พรรคการเมือง ม. 92 ซึ่งผลของการกระทำดังกล่าว อาจจะเป็นเหตุหรือมีหลักฐานให้ กกต. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยว่าจะมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล หรือไม่
ทั้งนี้ การไปให้ถ้อยคำนั้นเป็นไปตามหนังสือที่ ลต 0006/9708 ลงวันที่ 22 ก.ย. 64 ซึ่งตนได้แจ้งเจ้าหน้าที่ กกต.แล้วว่า จะไปให้ถ้อยคำพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติม(ถ้ามี) ตามวันเวลาที่แจ้งมา สำหรับกรณีที่ร้องยุบพรรคการเมืองอื่นนั้น เป็นคนละคำร้อง หาก กกต. มีหนังสือแจ้งมาเมื่อใด ก็จะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบต่อไป