หลังจากที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ประเด็นของ ผู้ลงสมัครส.ส.ก้าวไกล ที่โดนขุดข้อมูลว่า ในอดีตเจ้าตัวได้ด่าทอคนเสื้อแดง และสาปแช่งสารพัด
ต่อมา “แก้วตา” ธิษะณา ชุณหะวัณ หนึ่งในแกนนำคณะ Re-solution ที่จัดกิจกรรมให้ร่วมลงชื่อแก้รัฐธรรมนูญ ในแคมเปญ #ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์ ได้ออกมาขอโทษ ถึงรื่องราวในอดีตที่โพสต์ถึงคนเสื้อแดง ระบุว่า มีคนขุดสเตตัสเมื่อ 11 ปีที่แล้วมาโพสต์อายุ 18 ปีต้องยอมรับว่าตอนนั้นเรารู้เท่าไม่ถึงการ ไร้วุฒิภาวะ ได้รับข่าวเท็จว่าคนเสื้อแดงว่ามีอาวุธสงคราม แต่ในข้อเท็จจริงมาทราบภายหลังว่าไม่เป็นเช่นนั้น
รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นต้องขอกราบขอโทษคนเสื้อแดง ไม่หวังว่าจะได้รับการให้อภัย ซึ่งคำขอโทษของเราไม่สามารถจะทดแทนชีวิตที่เสียไปได้เลย เราทำได้เพียงทำวันนี้ให้ดีที่สุดในการทวงคืนความยุติธรรมให้แก่คนเสื้อแดง
และล่าสุด ธิษะณา ชุณหะวัณ ยังทวีตข้อความอีกว่า ขอโทษประชาชนจากใจจริง ที่เคยโพสต์ด้อยค่าการตายของผู้ชุมนุมปี 53 และเคยร่วมชุมนุมกปปส.ที่ปูทางสู่รัฐประหาร สองปีที่ดิฉันเคลื่อนไหวกับผู้ชุมนุมราษฎร ได้เรียนรู้แล้วถึงความผิดมหันต์ในอดีต ไม่หวังการให้อภัยจากสังคม แต่จะทำงานเต็มที่เพื่อแก้ผิดเป็นถูก เอาประชาธิปไตยกลับคืนมาให้ได้
จนต่อมามีกระแสโซเชียลจี้อีกว่า ถ้าจะขอโทษคนเสื้อแดง ต้องขอโทษไปถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาด้วย เพราะปู่ของตัวเอง มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่ง “แก้วตา ธิษะณา” เป็นลูกสาวของ อาจารย์โต้ง ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ผู้เคยมีบทบาทสำคัญประวัติศาสตร์การเมืองไทย และเป็นหลานของพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 17 ของไทย
ทั้งในจดหมายพระสุรินทร์ มาศดิตถ์ ได้เขียนถ่ายทอด เล่าไว้ถึงความลับ 6 ตุลา และใครเป็นใครบ้างใน 6 ตุลา 19 โดยระบุบางช่วง บางตอน ดังนี้ว่า จดหมายของอาตมา ฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม 2520 แจ้งผลการทอดผ้าป่าสามัคคีและเล่าเรื่องก่อนการปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน คือ การที่รัฐบาลที่ประชาชนเลือกตั้งขึ้นมา แล้วถูกยึดอำนาจให้ทราบบ้างแล้ว ตอนท้ายได้กล่าวไว้ว่า ความลับในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เท่าที่ประสบด้วยตนเองต่อ ดังนี้
วันที่ 6 ตุลาคม 2519 อาตมามาถึงตึกบัญชาการ สำนักนายกรัฐมนตรี เวลาประมาณ 7.00 น.เศษ มีนักหนังสือพิมพ์มาคอยอยู่ที่บันไดและลานก่อนเข้าลิฟท์หลายคน ต่างก็ถามถึงการที่มีภาพแขวนคอหน้าคล้ายเจ้าฟ้าชาย อาตมาตอบว่า ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว นายกรัฐมนตรีสั่งดำเนินคดี และกรรมการศูนย์นิสิตนักศึกษาบางคนเข้ามอบตัวแล้ว ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
แล้วอาตมารีบขึ้นไปชั้น 4 ที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี พบ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี ได้ดูภาพในหนังสือพิมพ์ดาวสยามและบ้านเมือง จึงเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีว่า ให้รีบประกาศภาวะฉุกเฉิน ห้ามชุมนุมทั่วประเทศ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ฯพณฯ นายกเห็นด้วย และว่าเดี๋ยว 9 โมงเช้า ประชุมคณะรัฐมนตรี จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
อาตมาจึงลงไปห้องทำงานชั้น 3 เห็นหนังสือด่วนไม่กี่ฉบับ เวลา 9.00 น.เศษ จึงรีบลงไปประชุมคณะรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้า ไปถึงคณะรัฐมนตรีเปิดประชุมไปแล้ว นายกรัฐมนตรีกล่าวกับอาตมาว่า กำลังพิจารณาเรื่องประกาศภาวะฉุกเฉิน อาตมาว่า ก็ไม่มีปัญหาอะไร เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทย และจำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และป้องกันเหตุร้ายในบ้านเมือง
ปรากฏว่าพลตรีชาติชาย ชุณหะวัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีอื่นฝ่ายพรรคชาติไทย คัดค้านไม่ให้ประกาศภาวะฉุกเฉิน ไม่ให้ห้ามการชุมนุม โดยอ้างเหตุผลว่าหากห้ามการชุมนุม ลูกเสือชาวบ้านจำนวนมากที่นัดมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้า เดินทางเข้ามาชุมนุมมากแล้วและกำลังเดินทางมา ก็จะเดือดร้อน ชุมนุมไม่ได้ แล้วจะหันมาเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาล
เหตุผลการคัดค้านของพลตรีชาติชาย ชุณหะวัน อ่อน รัฐมนตรีส่วนมากนั่งเฉย แสดงว่าเห็นด้วยในการประกาศภาวะฉุกเฉิน พลตรีชาติชายจึงได้ไปนำเอาพล.ต.ต.เจริญฤทธิ์ จำรัสโรมรัน ผู้เป็นหัวหน้าลูกเสือชาวบ้านคนหนึ่งของฝ่าย ตชด. เข้ามาในคณะรัฐมนตรี มาคัดค้านการประกาศภาวะฉุกเฉิน และกล่าวว่า จะต้องปราบนักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้สิ้นซาก
นายกรัฐมนตรีพูดว่าไม่ได้ หากเกิดจลาจลเป็นหน้าที่ของตำรวจทหาร บ้านเมืองมีขื่อมีแป คุณจะเอาประชาชนไปฆ่าประชาชนไม่ได้ พล.ต.ต.เจริญฤทธิ์บังอาจโต้นายกรัฐมนตรีต่อไปว่า ลูกเสือชาวบ้านก็มีวินัยรวมกับตำรวจทหารได้ ดูเหตุการณ์จากการกระทำของรัฐมนตรีฝ่ายพรรคชาติไทยและที่ไปนำพล.ต.ต.เจริญฤทธิ์ เข้ามาโต้เถียงกับนายกรัฐมนตรีแล้ว
อาตมาเข้าใจได้ทันทีว่าพวกนี้ต้องวางแผนการปฏิวัติไว้แล้ว และเชื่อแน่ของพวกเขาแล้วว่าต้องสำเร็จแน่ ตำรวจยศพลตำรวจตรี ยังกล้าเถียงนายกรัฐมนตรีถึงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลตรีประมาณ อดิเรกสาร หัวหน้าพรรคชาติไทย รมต.เกษตรฯ แสดงความเห็นในคณะรัฐมนตรีว่า เป็นจังหวะและโอกาสดีที่สุดแล้วที่จะปราบปราม ให้ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยได้ถูกลบชื่อหายไป
อย่างไรก็ตาม ในโลกโซเชียล ยังมีการตั้งคำถามถึงตัวหลานสาวของอดีตนายกฯชาติชายด้วยว่า สังคมโดยเฉพาะฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตคงมีคำถามมากมาย ว่าเจตนาที่แท้จริงคืออะไร? เพื่อเบิกทางเข้าสู่ถนนการเมืองเท่านั้นหรือไม่? การกระทำย่อมแสดงออกถึงเจตนาที่อยู่ภายในใจ..!! ลบอดีตให้หมดไปคงยาก แต่ก็ต้องพยายามทำให้เค้าเห็น ว่ามีความสำนึกผิดและอยากแก้ไขจริง ๆ