หลังรำลึก 9/11 ผ่านไป สงครามต้านก่อการร้ายยังไม่จบ สหรัฐใช้ “โดรนพิฆาต”ทำลายเป่าหมายโดยไม่สนว่าได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ อดีตนาวิกโยธินสหรัฐแฉเองแต่ถูกจำคุกฐานขโมยเอกสารลับทางราชการ และปัจจุบันล่าสุดอ้างสังหารกลุ่มISIS ในคาบูลเพื่อแก้แค้นทหารอเมริกันเสียชีวิต 13 คนในปฏิบัติการถล่มคาบูลก่อนวันเส้นตายสหรัฐฯอพยพในอาฟกานิสถาน ผลที่ชาวโลกได้เห็นคือชาวบ้าน ผู้หญิงและเด็กเสียชีวิต
หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐฯได้เปิดสงครามในอัฟกานิสถานบนพื้นฐานของการต่อต้านการก่อการร้าย บังคับให้คนอัฟกันนำการปกครองแบบประชาธิปไตยแบบสหรัฐฯ มาใช้ ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่สงบทางสังคมในท้องถิ่นและประชาชนต้องอาศัยอยู่ในความทุกข์ยาก โดยอ้างการต่อต้านการก่อการร้าย สหรัฐได้เริ่มทำสงครามรุกรานในประเทศต่างๆ ทั้งอิรัก ลิเบีย ซีเรีย และเยเมนนับแต่วันนั้น
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาของสงครามต่อต้านการก่อการร้ายของสหรัฐฯ ไม่มีการขจัดการก่อการร้ายอย่างแท้จริง และบ้านเมืองล่มสลายผู้คนก็ไม่ได้รับการปกป้องดูแลจากผลของสงคราม สงครามได้ทำลายสมดุลทางยุทธศาสตร์ของภูมิภาค ทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคแย่ลงกว่าเดิม และทำร้ายโลกอย่างต่อเนื่อง
ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยโครงการ Cost of War ของมหาวิทยาลัยบราวน์ ตั้งแต่ปี 2544 สหรัฐฯ ได้ใช้เงิน 8 ล้านล้านดอลลาร์ในสงครามและการปฏิบัติการทางทหารใน 85 ประเทศทั่วโลกในนามของการต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 929,000 ราย ซึ่ง 387,000 เป็นพลเรือน มีผู้พลัดถิ่นในสงครามมากถึง 38 ล้านคน
20 ปีหลังจากที่สหรัฐฯเริ่มต้นสงครามต่อต้านการก่อการร้ายหลังเหตุการณ์ 9/11 โซราบ กุ๊บตา(Sourabh Gupta) เจ้าหน้าที่อาวุโสของสถาบันเพื่อจีน – อเมริกาศึกษา ได้กล่าวว่าว่า “ผมขอยืนยันว่า 20 ปีที่ผ่านมา และตลอดหลายปีนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น จัดเป็นยุคที่หายนะที่สุดในประวัติศาสตร์นโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯก็ว่าได้” สหรัฐฯกำหนดเป้าหมาย โดยการแทรกแซงทางทหารเป็นหลัก เพื่อเปลี่ยนประเทศในตะวันออกกลางตามวิสัยทัศน์และวาระของตนเอง ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของคนในประเทศเหล่านั้น
เมื่อเดือนกรกฎาคมมที่ผ่านมา มีคดีสั่นสะเทือนอเมริกา เกี่ยวกับอดีตนาวิกโยธินสหรัฐที่ทำงานในอาฟกานิสถาน ออกมาเปิดเผยเอกสารลับรายงาน การโจมตีเป้าหมายศัตรูและประชาชนในพื้นที่ต้องสงสัย ของกองทัพสหรัฐ เจ้าหน้าที่ แดเนียล เอเวอร์เรตต์ เฮล(Daniel Everett Hale) ถูกตัดสินจำคุก 45 เดือนฐานขโมยเอกสารลับทางราชการเผยแพร่ต่อสื่อ อดีตเขาทำหน้าที่วิเคราะห์และชี้เป้าให้กับปฏิบัติการอากาศยานไร้คนขับ หรือ “โดรนสังหาร” และเขาลาออกในต้นปี 2014 เขาให้การต่อศาลว่า“ในปฏิบัติการของโดรนสังหาร บางครั้งจำนวน 9 ใน 10 คนที่ถูกฆ่าคือผู้บริสุทธิ์”
สำนักข่าว Intercept เป็นผู้ได้รับเอกสารลับ 17 ชิ้น ตีพิมพ์รายงานในชุด Drone Papers ช่วงปลายปี 2015 เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับ “รายชื่อต้องฆ่า” ของสหรัฐ และเหตุการณ์พลเรือนที่เสียชีวิตจากการโจมตีโดยโดรนพิฆาต
ปริยันคา โมตาพาร์ที ผู้อำนวยการโครงการต่อต้านการก่อการร้าย ความขัดแย้งทางด้านอาวุธ และสิทธิมนุษยชน ของ Columbia Law School กล่าวว่า การเปิดเผยทำให้สังคมอเมริกันได้รับข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับปฏิบัติการฆ่าด้วยโดรนที่ชัดเจนว่าไร้ความโปร่งใสและความรับผิดชอบ อีกทั้งยังได้สร้างความเสียหายแก่ชีวิตพลเรือนอย่างกว้างขวางที่ถูกกระทำในนามความมั่นคงของชาติ
และเนื่องจากว่ารัฐบาลสหรัฐพยายามปกปิดยอดผู้เสียชีวิตไว้อย่างมิดชิด แต่สื่อมวลชนเชิงสืบสวนสอบสวนและกลุ่มเฝ้าระวังก็ได้ทำการศึกษาอย่างแข็งขันเช่นกัน “สำนักสื่อมวลชนเชิงสืบสวนสอบสวนสหราชอาณาจักร” หรือ TBIJ ได้คำนวณและประเมินจำนวนผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการโดรนสังหารและปฏิบัติการลับอื่นๆ ในปากีสถาน, อัฟกานิสถาน, เยเมน และโซมาเลย นับตั้งแต่การโจมตีเริ่มขึ้นในปี 2004 อยู่ที่ 8,858 คน ถึง 16,901 คน
ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด ประมาณ 2,200 คนเป็นพลเรือน หลายร้อยเป็นเยาวชน และยังมีพลเมืองสหรัฐรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม จำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตตามการประเมินนี้ยังน้อยกว่าความเป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะจดหมายของเฮลที่ส่งถึงศาลระบุชัดเจนว่าผู้ที่ถูกสังหารด้วยโดรนสหรัฐนั้นทั้งหมดถูกนับเป็นศัตรูที่ถูกสังหารในปฏิบัติการ ยกเว้นว่าจะได้รับการพิสูจน์เป็นอย่างอื่นซึ่งก็ไม่มีใครไปพิสูจน์
ข่าวฮือฮาล่าสุดเกี่ยวกับผลงานปราบผู้ก่อการร้ายด้วยโดรนของสหรัฐ เกิดขึ้นโดยนิวยอร์กไทม์สแฉเองว่า สหรัฐฯพลาดยิงโดรนสังหารใส่ ‘อาสาสมัครบรรเทาทุกข์อัฟกัน’ ไม่ใช่ ‘มือระเบิดไอเอส’
เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2564 กองทัพสหรัฐฯอ้างปฏิบัติการพุ่งเป้าสังหารมือระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มรัฐอิสลามในภูมิภาคโคราซาน หรือ ISIS-K ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามต่อสนามบิน พบว่าบุคคลที่ถูกล็อกเป้าเป็นเพียง “อาสาสมัครบรรเทาทุกข์” ชาวอัฟกันรายหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย และเหตุการณ์นี้ยังคร่าชีวิตพลเรือนไปด้วยถึง 10 คนในนั้นมีทั้งและผู้หญิงรวมอยู่ด้วย เรื่องนี้ไม่มีการแก้ตัว ไม่มีการแก้ข่าว ไม่มีใครเรียกร้องค่าเสียหายให้กับชีวิตของเหยื่อชาวอัฟกันแต่อย่างใด???