ตร.ส่งฟ้องธนาธรช่อปิยบุตร คดีผิดม.116 อัยการอ้างช่วงนี้มีโควิด นัดฟังคำสั่งอีก 2 เดือน

2209

จากที่วันนี้ 11 พฤษภาคม 2564 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้นำสำนวนการสอบสวน พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า , นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และน.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า

ทั้งนี้เป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันยุงยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 กรณีที่ทั้ง 3 คน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กการปราศรัยกับนักศึกษา หรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ รวมถึงเชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุมทางการเมืองเมื่อช่วงปลายเดือน ตุลาคม 2563  ซึ่งนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธะอิสระ ให้ทนายเข้าแจ้งความเมื่อปีที่แล้ว พร้อมส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาความเห็นสั่งฟ้อง

ขณะที่นายปิยบุตร กล่าวก่อนเข้าพบพนักงานอัยการ ว่า วันนี้พวกตนทั้งสามคนมาตามที่พนักงานสอบสวน มีความเห็นสั่งฟ้องพวกเราจากกรณีเมื่อปลายเดือน ตุลาคม 2563 นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ ที่สังคมรู้จักกันว่า พุทธะอิสระ มาร้องทุกข์กล่าวโทษพวกตนได้กระทำผิดกฎหมายมาตรา 116 เรื่องยุยงปลุกปั่น แล้ววันนี้พนักงานสอบสวน มีความเห็นควรสั่งฟ้องก็จะนำตัวพวกเรามาให้พนักงานอัยการดำเนินการต่อไป

“เมื่อพวกเราได้อ่านบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาของนายสุวิทย์ พวกตนไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 116 เนื่องจากในสำนวนสอบสวน มีการกล่าวอ้างพฤติการณ์ของแต่ละคน เช่น กรณีของนายธนาธร คือนำเรื่องที่เคยอภิปราย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเมืองไทยในสภา อภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่างๆ รวมถึงงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นผู้ที่มีส่วนในการก่อตั้งวารสารฟ้าเดียวกัน แล้วก็ไปปรากฏตัวในที่ชุมนุม

ส่วนของตนเป็นการนำบทความ หรือเนื้อหาที่สมัยที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย และเรื่องที่เคยมีการเขียนลงในหนังสือฉบับหนึ่ง มาชี้นำว่าเข้าข่ายกระทำความผิด ส่วนกรณีของน.ส.พรรณิการ์ มีเพียงการไลฟ์สดเฟซบุ๊กในการชุมนุมดังกล่าวเท่านั้น”

นอกจากนี้ นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า หากนำข้อเท็จจริงดังกล่าว ไปออกข้อสอบในกลุ่มนิติศาสตร์ ก็เชื่อว่าทุกคนจะตอบคำถามในทางเดียวกันว่าไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ซึ่งแม้ว่าพนักงานสอบสวนจะไม่มีความเห็นงดสั่งฟ้อง หรือ ทำความเห็นแนบมากับสำนวนคดี ก็ตั้งความหวังว่าอัยการจะพิจารณาให้ความเป็นธรรม เช่นเดียวกับที่เคยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องแบบเดียวกับคดีของนายธนาธร ก่อนหน้านี้ พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งคำถามกลับไปถึงกลุ่มนักร้องเรียน ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ จะไม่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเองได้ตระเวนร้องทุกข์ไปตามหน่วยงานต่าง ๆ หรือไม่

ขณะที่นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด  และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกฯ ระบุว่า เนื่องจากพนักงานสอบสวนเพิ่งนำสำนวนคำร้องส่งมาให้พิจารณาในวันนี้ พนักงานอัยการจึงยังไม่ได้พิจารณาข้อเท็จจริงสรุปได้ทันทีว่า สมควรมีความเห็นทางคดีนี้อย่างไร ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงเห็นควรนัดฟังคำสั่งคดีนี้อีกครั้งในวันที่ 13 กรกฏาคม เวลา 10.00 น.

อย่างไรก็ตามหากย้อนไปเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกยน 2563 อดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ระบุว่า เมื่อห้าวนักงั้นก็จัดให้ เมื่อวันพุธที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มิได้จัดรายการไลฟ์สด เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนของ สน.พญาไท มาขอสอบปากคำเพิ่มเติมในกรณีที่พุทธะอิสระให้ทนายไปแจ้งความกล่าวโทษกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพวก ซึ่งตำรวจก็จะนำสำนวนการสอบปากคำไปออกหมายเรียก และหมายจับตามลำดับ

“พุทธะอิสระ ก็ต้องขออโหสิกรรมแก่บรรดาแกนนำม็อบล้มเจ้าทั้งหลาย โดยส่วนตัวเราไม่เคยโกธรเคืองกันมาก่อน แต่ที่ต้องมาโรมรันพันตู ต่อสู้กันก็ด้วยอุดมการณ์ของเราต่างกัน ซึ่งถ้าหากพวกคุณๆ ไม่มารุกไล่สถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของแผ่นดินไทย พุทธะอิสระและลูกไทย ก็คงไม่ต้องมารุกไล่พวกคุณกลับดอก

คุณๆ ทั้งหลายก็อย่าอาฆาตพยาบาท แก่ฉันเลยเพราะเรากำลังทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ หากกล้าที่จะก้าวเข้าสู่สมรภูมิ ก็จงอย่ากลัวที่จะมีบาดแผล”